Free cash flow นี้เท่ากับ ebitda - capex เหรอครับ

[Stock lover]

Free cash flow นี้เท่ากับ ebitda - capex เหรอครับ ก็คือเอา ebitda - ด้วย กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุน ในงบการแสเงินสด แค่นี้เองเหรอครับ
ตลอดปี 2554 ดีแทค สามารถสร้างกระแสเงินสดถึง 2.15 หมื่นล้านบาท (นิยามโดยกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลบด้วย รายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือ CAPEX) และผลจากการมีกระแสเงินที่แข็งแกร่งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลประจำปีในอัตรา 1.38 บาทต่อหุ้น เพิ่มเติมจากที่เคยจ่ายเงินปันผลพิเศษไปแล้ว 16.46 บาทต่อหุ้น
ขอบคุณครับ


http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewN ... 0000016802

[nut776]

ปกติต้องลบ change of working cap ด้วยนิต

[Stock lover]

เออใช่ครับ ในหนังสือวัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวเอง

FCF = EBIT x (1-t)+DA-capex-cwc

[Stock lover]

จริงๆ น่าจะลบ ดอกเบี้ยออกไปด้วยนะ เพราะดอกเบี้ยยังไงเราก็ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้อยู่ดี

[pantar]

ถ้าขี้เกียจหา CWC จะใช้ operate cash - capex ได้มั๊ยอะ

[Stock lover]

ผมเคยอ่าน ในหนังสือกุญแจ ห้าดอก เขาแค่เอา กำไรสุทธิ + DA - capex ผมว่ามันเป็นวิธีคิด FCF แบบคราวๆอ่ะครับ

[getkung]

ขอความหมายของ Free Cash Flow หน่อยได้มั๊ยครับ ก่อนที่จะมาเป็นสมการ

[sakkaphan]

จริงๆ น่าจะลบ ดอกเบี้ยออกไปด้วยนะ เพราะดอกเบี้ยยังไงเราก็ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้อยู่ดี

ตอนแรกผมก็คิดแบบนี้เช่นกัน แต่เหตุผลที่เค้าไม่นำมาคิด เนื่องจากดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากโครงสร้างของเงินทุน ซึ่งไม่เกี่ยงข้องโดยตรงกับการดำเนินงาน ทำนองเดียวกัน ดอกเบี้ยรับจากเงินสดส่วนเกินหรือเงินลงทุนระยะสั้นก็ถือเป็นรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ก็ไม่นำมาคิดเช่นกัน
ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วดอกเบี้ยจากหนี้สินก็ไม่ถือว่า "Free"ซะทีเดียว สูตรตรงนี้ก็ไม่ได้ตายตัว แล้วแต่คนจะปรับเอาไปใช้ครับ อย่าง CAPEX นี่ จริงๆก็ประกอบด้วย maintenance capex ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อคงสภาพในการดำเนินงานปัจจุบันเอาไว้ กับ growth capex คือค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อให้กิจการเติบโต อย่างตรงนี้คุณก็อาจจะใช้ maintenance capex แทน capex ทั้งหมด ก็จะได้ free cash flow ที่ยังไม่รวมการลงทุนเพื่อให้ยอดขายเติบโต อย่างงี้เป็นต้น

[sakkaphan]

ขอความหมายของ Free Cash Flow หน่อยได้มั๊ยครับ ก่อนที่จะมาเป็นสมการ

เป็นเงินสดที่เหลือจากกิจกรรมดำเนินงาน ซึ่งเจ้าของสามารถนำไปทำอะไรก็ได้ ยกตัวอย่างง่ายสมมุติคุณเป็นเจ้าของหอพัก ได้เงินจากผู้เช่าทั้งปี 100 ล้าน จ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินงานทั้งหลายแหล่ 50 ล้าน
และคุณต้องจ่ายค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อรักษาหอไว้ให้มันทำเงินได้คุณได้ต่อไป เช่น ทาสี ซ่อมโน่นซ่อมนี่ อีก 20 ล้าน คุณก็จะเหลือเงิน อีก 30 ล้าน ที่จะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ เช่น เอาออกมาใช้เอง หรือเอาไปลงทุนเพิ่ม หรือเอาไปจ่ายหนี้สิน เป็นต้น

[viim]

การเข้าใจความหมายของสูตรน่าจะดีกว่าการท่องจำสูตรครับ จำได้ว่าบางคนเขาก็ใช้ Net profit แทนที่จะใช้ Normalised EBIT after tax ก็แล้วแต่ ไม่มีอะไรตายตัว เพราะคำว่ากระแสเงินสดอิสระ ชื่อก็บอกว่าอิสระ สามารถเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้อย่างที่ท่านข้างบนว่าไว้

ถ้าจะนำ FCF ไปหา DCF ต่อ มันก็ต้องทำการกำหนด Discount rate และ growth rate ทั้งในช่วงเติบโตและช่วง terminal state อยู่แล้ว

เซียนหลายท่านที่ผมเคยได้ยินจากปากเขากล่าวว่า การเข้าใจใจกิจการอย่างถ่องแท้จะสำคัญกว่าการใส่สูตร เพระสูตรมี approximation factors มากมายอาจทำให้เราสับสนได้ครับ

[getkung]

การเข้าใจความหมายของสูตรน่าจะดีกว่าการท่องจำสูตรครับ จำได้ว่าบางคนเขาก็ใช้ Net profit แทนที่จะใช้ Normalised EBIT after tax ก็แล้วแต่ ไม่มีอะไรตายตัว เพราะคำว่ากระแสเงินสดอิสระ ชื่อก็บอกว่าอิสระ สามารถเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้อย่างที่ท่านข้างบนว่าไว้

นั่นละครับ วัตถุประสงค์ที่ผมถาม เพื่อให้คนได้เข้าใจว่า FCF นั้นคืออะไร แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แล้วก็แล้วแต่อุตสาหกรรมที่เราจะตีความว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนนั้นเกี่ยวกับการดำเนินงานหรือเปล่า ไม่มีสูตรตายตัวเป๊ะๆหรอกครับ

[getkung]

เป็นเงินสดที่เหลือจากกิจกรรมดำเนินงาน ซึ่งเจ้าของสามารถนำไปทำอะไรก็ได้ ยกตัวอย่างง่ายสมมุติคุณเป็นเจ้าของหอพัก ได้เงินจากผู้เช่าทั้งปี 100 ล้าน จ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินงานทั้งหลายแหล่ 50 ล้าน
และคุณต้องจ่ายค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อรักษาหอไว้ให้มันทำเงินได้คุณได้ต่อไป เช่น ทาสี ซ่อมโน่นซ่อมนี่ อีก 20 ล้าน คุณก็จะเหลือเงิน อีก 30 ล้าน ที่จะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ เช่น เอาออกมาใช้เอง หรือเอาไปลงทุนเพิ่ม หรือเอาไปจ่ายหนี้สิน เป็นต้น

ขอบคุณครับ

เท่าที่อ่านก็คือเงินสดที่เหลือจากการดำเนินงาน ซึ่งได้หักค่าบำรุงรักษาที่จะให้กิจการดำเนินต่อไป และรวมไปถึงเงินที่จะใช้ขยายงานต่อไปด้วย

[Stock lover]

ผมเคยอ่านในหนังสือ เขาบอกว่า กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน คือเงินสดที่บริษัทได้รับจริง งั้นผมก็เอา กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน - Capex - CWC ก็ได้ใช่มั้ยครับ

[sakkaphan]

ผมเคยอ่านในหนังสือ เขาบอกว่า กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน คือเงินสดที่บริษัทได้รับจริง งั้นผมก็เอา กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน - Capex - CWC ก็ได้ใช่มั้ยครับ

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะมีการคิด change in working cap อยู่แล้วครับ ไม่ต้องไปลบอีก

[Stock lover]

ขอบคุณครับ

[Stock lover]

ผมเคยอ่านในหนังสือ เขาบอกว่า กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน คือเงินสดที่บริษัทได้รับจริง งั้นผมก็เอา กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน - Capex - CWC ก็ได้ใช่มั้ยครับ

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะมีการคิด change in working cap อยู่แล้วครับ ไม่ต้องไปลบอีก

อย่างงี้ ก็สามารถเอากระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน - กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุน = Free cash flow ได้เลยสิครับ

[Stock lover]

คือผมมานั่งอ่านใหม่แล้วรู้สึกว่า กระแสเงินสดในการดำเนินงาน น่าจะคำนวณ working cap มาให้แล้ว แต่ไม่ได้บอก CWC นะครับ ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกรึเปล่า

[Stock lover]

Element Data Source
Earning Before Interest and Tax x (1-Tax) Current Income Statement
+ Depreciation/Amortization Current Income Statement
- Changes in Working Capital Prior & Current Balance Sheets: Current Assets and Liability accounts
= Cash Flows from Operations same as Statement of Cash Flows: section 1, from Operations

Therefore,

Element Data Source
Cash Flows from Operations Statement of Cash Flows: section 1, from Operations
- Capital Expenditure Statement of Cash Flows: section 2, from Investment
= Free Cash Flow

http://en.wikipedia.org/wiki/Free_cash_flow
ok ผมได้สูตรมาละ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน สามารถลบกับกระแสเงินสดจากการลงทุนได้เลย จะได้ free cash flow ครับ

[Stock lover]

ที่ผมทำเป็นตัวดำ คิดว่าในวิคิ คงพิมผิด เพราะผมไปดูในกระแสเงินสดของบริษัทแล้ว ผมว่า เขา เอากำไร + da + tax + interest กลับไปเลย ส่วน CWC ผมไม่รู้ดูไงแต่คิดว่าเขาคงคำนวณมาให้แล้วในงบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ขอบคุณมากครับ

[Stock lover]

กลับไปดูอีกที รู้สึกว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงาน จะบวก ภาษีเงินได้ ในงบกำไร ขาดทุน ก่อนจะหัก ภาษีเงินได้ ซึ่งคิดว่าที่บริษัทจ่ายจริงๆในงวดนั้นๆออกไปตอนนี้ก็คงเป็นงวด 9 เดือน เพราะกระแสเงินสดคือบริษัทจ่ายเงินจริงๆ ที่นี้เกิดปัญหา เพราะตามสูตร FCF = EBIT * (T-1)+DA-Capex-CWC กับ FCF = cash flow from operation - cash flow from investment ก็คงไม่เท่ากันใช่มั้ยครับ เพราะ t-1 ที่เขียนในงบกำไรขาดทุน กับ งบกระแสเงินสดไม่เท่ากัน เช่น cpall ในงบกำไรขาดทุน ภาษีเงินได้2,475.74 กับ จ่ายภาษีเงินได้-2,828.60 ในงบกระแสเงินสด ซึ่งไม่เท่ากันอยู่แล้ว

[viim]

น่าจะเป็น 1-T หรือป่าวครับ ไม่ใช่ T-1 ไม่งั้นติดลบนะครับ

[Stock lover]

ใช่แล้วครับ 1-t เพราะต้องหัก ภาษีกลับไป ขอบคุณครับ โทษทีครับ

[navapon]

ข้ออ้างอิงจากสูตรของคุณสุมาอี้ว่าถูกต้องที่สุดนะครับ

จะได้ FCF = EBIT x (1-T) + DA - (CAPEX + CWC)

โดย
EBIT x (1-T) + DA คือ เงินสดที่ได้จากการทำธุรกิจจริง
(CAPEX + CWC) คือ เงินสดที่ต้องใช้ลงทุนขั้นพื้นฐาน
หักลบกัน ส่วนที่เหลือจึง คือเงินสดอิสระที่เหลือและจะเอาไปทำอะไรก็ได้นั่นเอง

ข้อสังเกต 1)

ลองดู EBIT x (1-T) + DA กัน

มองดีๆจะพบว่ามันมีค่าใกล้เคัยงกับ EBITDAมาก (เพราะ EBITDA = EBIT + DA)

EBIT x (1-T) + DA ต่างจาก EBITDA ตรงที่ หักเอา "ภาษี" ออกเท่านั้น (ถ้าไม่มีภาษี 2 ค่านี้ก็แทบจะเท่ากัน)


ข้อสังเกต 2)
ในงบกระแสเงินสด บรรทัดบนสุด เริ่มจาก กำไรสุทธิ แล้วมากระทบยอด ได้เป็น เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน (Operating Cash Flow)
ซึ่งในนี้มันจะมีการบวกกลับ DA และ ค่าที่คล้ายๆ change in working capital แต่ไม่เท่ากับวิธีของคุณสุมาอี้ เพราะCWC ที่คนเข้าใจว่า ตรงนี้มันใช่ จะไม่ได้เอาเงินสดและหนี้สินมีดอกเบี้ยที่จะถึงกำหนดชำระมาคิดด้วย นอกจากนี้ในงบกระแสเงินสดตรงส่วนนี้ ยังเอาสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนบางส่วน (สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น) มาคิดด้วยอีกต่างหาก ขณะที่ การคิดCWCจริงๆ ไม่เอา "สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน" มาคิด (ขอบคุณความรู้ตรงนี้จากเวปไทยวีไอครับ)

ข้อสรุป 3)

ดังนั้นผมว่าการคิด FCFให้คิดด้วยวิธีที่คุณสุมาอี้แนะนำจะดีที่สุดครับ

FCF = EBIT x (1-T) + DA - (CAPEX + CWC) - - - แทนค่าตรงๆตามนี้เลยดีที่สุด

ไม่งั้นเวลาเหมาเอาว่า เงินสดอิสระ เท่ากับ เงินสดจากการดำเนินงาน ลบด้วย เงินสดจากกิจกรรมลงทุน
เราจะคิดว่า เอา OCFมาใช้เลย เพราะ บวกกลับด้วยDAอยู่แล้ว แต่มันมี สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง และ หนี้สินดำเนินงาน เพิ่มขึ้น (ลดลง) แฝงอยู่ด้วย ซึ่งมันไม่เท่ากับ CWCนะครับ ดังที่กล่าวเหตุผลข้างต้น

ผมเองก็ต้องกลับไปเปลี่ยนวิธีคิดตัวเองใหม่และแก้สูตรในexcelเหมือนกันครับ ^^

ผิดพลาดประการใด ช่วยแนะนำด้วยครับ
ผมอยากเก่งขึ้น

[Stock lover]

ผมก็เคยคิดว่าจะลองคำนวณดูอยู่เหมือนกัน เห็นบ้างเว็บบอกใช่แทนกันได้ แต่ฟัง คุณ navapon คิดว่าค่าที่ออกมาคงไม่เท่ากัน เพราะ cwc ที่คิดตามสูตรคุณสุมาอี้ กับ cwc ที่บวกกันในงบกระแสเงินสดจากการดำเนินงานคงไม่เท่ากัน ขอบคุณครับ

ข้ออ้างอิงจากสูตรของคุณสุมาอี้ว่าถูกต้องที่สุดนะครับ

จะได้ FCF = EBIT x (1-T) + DA - (CAPEX + CWC)

โดย
EBIT x (1-T) + DA คือ เงินสดที่ได้จากการทำธุรกิจจริง
(CAPEX + CWC) คือ เงินสดที่ต้องใช้ลงทุนขั้นพื้นฐาน
หักลบกัน ส่วนที่เหลือจึง คือเงินสดอิสระที่เหลือและจะเอาไปทำอะไรก็ได้นั่นเอง

ข้อสังเกต 1)

ลองดู EBIT x (1-T) + DA กัน

มองดีๆจะพบว่ามันมีค่าใกล้เคัยงกับ EBITDAมาก (เพราะ EBITDA = EBIT + DA)

EBIT x (1-T) + DA ต่างจาก EBITDA ตรงที่ หักเอา "ภาษี" ออกเท่านั้น (ถ้าไม่มีภาษี 2 ค่านี้ก็แทบจะเท่ากัน)


ข้อสังเกต 2)
ในงบกระแสเงินสด บรรทัดบนสุด เริ่มจาก กำไรสุทธิ แล้วมากระทบยอด ได้เป็น เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน (Operating Cash Flow)
ซึ่งในนี้มันจะมีการบวกกลับ DA และ ค่าที่คล้ายๆ change in working capital แต่ไม่เท่ากับวิธีของคุณสุมาอี้ เพราะCWC ที่คนเข้าใจว่า ตรงนี้มันใช่ จะไม่ได้เอาเงินสดและหนี้สินมีดอกเบี้ยที่จะถึงกำหนดชำระมาคิดด้วย นอกจากนี้ในงบกระแสเงินสดตรงส่วนนี้ ยังเอาสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนบางส่วน (สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น) มาคิดด้วยอีกต่างหาก ขณะที่ การคิดCWCจริงๆ ไม่เอา "สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน" มาคิด (ขอบคุณความรู้ตรงนี้จากเวปไทยวีไอครับ)

ข้อสรุป 3)

ดังนั้นผมว่าการคิด FCFให้คิดด้วยวิธีที่คุณสุมาอี้แนะนำจะดีที่สุดครับ

FCF = EBIT x (1-T) + DA - (CAPEX + CWC) - - - แทนค่าตรงๆตามนี้เลยดีที่สุด

ไม่งั้นเวลาเหมาเอาว่า เงินสดอิสระ เท่ากับ เงินสดจากการดำเนินงาน ลบด้วย เงินสดจากกิจกรรมลงทุน
เราจะคิดว่า เอา OCFมาใช้เลย เพราะ บวกกลับด้วยDAอยู่แล้ว แต่มันมี สินทรัพย์ดำเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง และ หนี้สินดำเนินงาน เพิ่มขึ้น (ลดลง) แฝงอยู่ด้วย ซึ่งมันไม่เท่ากับ CWCนะครับ ดังที่กล่าวเหตุผลข้างต้น

ผมเองก็ต้องกลับไปเปลี่ยนวิธีคิดตัวเองใหม่และแก้สูตรในexcelเหมือนกันครับ ^^

ผิดพลาดประการใด ช่วยแนะนำด้วยครับ
ผมอยากเก่งขึ้น

[sakkaphan]

ขอบคุณคุณ navaporn ด้วยครับ ในงบกระแสเงินสดดำเนินงาน มี รายการปรับปรุงอื่นๆ(บางอย่าง) รวมถึงสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าเนื่องจากเป็นเงินสดเข้าหรือออกที่อาจไม่เกี่ยวกับกิจกรรมดำเนินงาน บางอย่างอาจเกิดเพียงครั้งเดียวหรือนานๆครั้ง จึงไม่เอามาคิดในการหา FCF จึงคิดว่าน่าจะถูกต้องอย่างที่คุณnavaporn พูดแล้ว

แต่อย่างว่าแหละครับ สุดท้ายแล้วก็อาจจะต้องไปปรับใช้ให้เข้ากับโมเดลกิจการที่เราสนใจ อย่างเช่นธุรกิจเช่าซื้อ มีรายการปรับปรุงบางอย่างซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินงานและต้องเกิดทุกปี เช่น หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ ขาดทุนจากการยึดสินค้าคืน ซึ่งผมคิดว่าเราต้องบวกกลับเข้าไปด้วย หากเราไม่บวกกลับเข้าไปจะทำให้FCF ที่ได้ผิดเพี้ยน

ผมคิดว่าหากนำสูตรจากในหนังสือ ไปใช้ทันทีเลยโดยอ้างอิงกับทุกกิจการ ไม่น่าจะถูกต้องนัก การเข้าใจในตัวโมเดลกิจการให้มากที่สุดจึงสำคัญเพราะจะทำให้เราเอาไปประยุกต์ใช้ได้ เหมือนกับการเรียนมหาลัยน่ะครับ ถ้าใครเรียนสายวิศวะจะรู้ดีว่า การท่องจำแล้วเอาไปใช้เลยโดยไม่เข้าใจถ่องแท้ อาจารย์ออกข้อสอบพลิกแพลงนิดหน่อยก็เดี้ยงแล้ว

แต่ที่ผมพูดมาข้างบน ก็ไม่ได้มีอะไรยืนยันว่าผมถูกนะครับ การนำสูตรไปคิดไปประยุกต์ใช้เองก็ไม่ค่อยมีคนสอน ส่วนใหญ่จะสอนสิ่งที่เป็น standard แล้วเราต้องปรับใช้เอง ดังนั้นมีความคิดเห็นอะไรยังไงก็แชกันได้ครับ

[Stock lover]

EBIT * (1-t)+DA-Capex-CWC ผมสงสัยครับ ว่าทำไมเราต้องเอา cwc มาลบเข้าไปด้วยละครับ ทำไมไม่ใช้Working cap ไปเลย เพราะworking cap ก็คือเงินที่เราใช้หมุนเวียนจริงๆ

[viim]

ขออนุญาตตอบเท่าที่ผมจะมีความรู้นะครับ เพราะผมเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า การที่ผมได้เขียนบ่อยๆ จะทำให้ผมเข้าใจได้มากขึ้นเช่นกัน

ผมคิดว่าเราอาจจะต้องทำความเข้าใจคำว่า "กำไรทางบัญชี" ในงบกำไรกำไรขาดทุน กับคำว่าการไหลเข้าไหลออกของเงินสด (cash flow) จริงๆก่อนครับ เพราะบางครั้ง กิจการโชว์กำไรสวยหรู แต่เงินสดไปจมอยู่ที่ลูกหนี้การค้า หรือ สินค้าคงเหลือในสต๊อค อาจจะทำให้กิจการเงินสดขาดมือ หรือที่เรียกว่า ขาดสภาพคล่อง ได้ และไอ้เจ้า 2 ตัวนี้ (ลูกหนี้การค้า + สินค้าเหลือในสต๊อค) มันก็คือ สินทรัพย์หมุนเวียน ในทางกลับกัน ถ้ากิจการมีอำนาจต่อรองกับผู้ป้อนสินค้า (supplier) มากๆ ก็อาจจะมีตัว เจ้าหนี้การค้า (หนี้สินหมุนเวียน) ในงบกระแสเงินสดมาก อันนี้เหมือนกับว่าเราเอาหนี้แบบไม่มีดอกเบี้ยหรือมีภาระต้นทุนทางการเงินมาหมุนเวียนใช้ก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่จะมีซักกี่บริษัทที่สามารถทำแบบนี้ได้
ทีนี้ CWC = changes in work. cap และ work cap = สินทรัพย์หมุน - หนี้สินหมุน ครับ

ตรงนี้ก็จะไปกระทบกับ FCF โดยตรงครับ เพราะถ้า CWC ติดลบ ก็จะส่งผลให้ FCF เพิ่มขึ้นได้ แต่บางที มันก็อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะไอ้ตัวเจ้าหนี้การค้า ยังไงมันก็เป็นหนี้ ถึงแม้จะเป็นหนี้ไม่มีดอกเบี้ยก็เถอะ เวลาผมเอาไปใช้ เมื่อใดที่ CWC เป็นลบ ผมจะปรับให้เป็นศูนย์ (conservative หน่อย) แต่ถ้ามันเป็นบวกก็จะปล่อยตามนั้นครับ ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีนี้น้อยครับ ปัจจุบันใช้ forward PE กับดูแนวโน้มธุรกิจเอา

[sakkaphan]

มีบทความถาม-ตอบ คุณ Invisible Hand ในเวบกระทิงเขียวอันนึงที่ผมเซฟไว้ และมีคำถามที่มีคนถามเรื่อง CWC พอดี ลองเข้าไปอ่านดูอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้นครับ

http://bbznet.pukpik.com/scripts3/view. ... er=numview

[Stock lover]

อ่านแล้วก็ยังมึนอยู่ดีครับ หรือว่า cwc คือการ ทีี่จะดูว่า บริษัทใช้เงินทุนหมุนเวียน เพิ่มขึ้นหรือลดลง เช่น cwc เป็น ลบ แปลว่า บริษัทใช้เงินทุนหมุนเวียนน้อยลง อย่างงี้เป็นต้นรึเปล่าครับ

[viim]

ผมได้เข้าไปเวป greenbull ตาม link ข้างบน และเข้าไปอ่านที่คุณ IH พูดเกี่ยวกับ FCF และ CWC พบว่า ความหมายของคุณ IH และความหมายที่ผมศึกษามาจากคุณสุมาอี้นั้น ตรงกันข้ามกันในเชิงเครื่องหมายบวกและลบ แต่ถ้าเข้าใจความหมายที่ทั้งสองท่าน (สุมาอี้ และ IH) สื่อออกมาก็จะไม่งงครับ ความหมายของท่านสุมาอี้ คือ CWC = WC ปีปัจจุบัน - WC ปีก่อนหน้า และคำว่า WC คือเงินทุนหมุนเวียนที่ต้องการ แต่สำหรับของท่าน IH คำว่า WC คือเงินทุนที่ได้มาใช้หมุนเวียนในกิจการ ดังนั้นถ้า CWC เป็นบวกในความหมายของท่าน IH หมายความว่าได้เงินมาหมุนเวียนมากขึ้น เช่น จากเจ้าหนี้การค้า ในกิจการค้าปลีก ซึ่งก็มักจะเป็นบวกมาก (IH) แต่ท่านสุมาอี้จะได้ CWC ติดลบ เพราะใช้เงินทุนหมุนเวียนของตัวเองน้อยลง หรือแม้กระทั่งเงินทุนหมุนเวียนมาจากเจ้าหนี้การค้า (OPM, other people money) ไม่ทราบผมเข้าใจถูกต้องหรือป่าวครับ ท่านอื่นๆเห็นอย่างไรครับ