ค้าปลีกไทยจะไปเมืองนอก

[คนขายของ]

ตอนนี้ผมว่าถ้าใครติดตามข่าวสารวงการค้าปลีกไทย คงจะได้ยินข่าวว่ามีบริษัทค้าปลีกไทยบางบริษัทคิดจะไปโตเมืองนอก

ผมว่าอารมณ์ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับการได้ฝันว่า บอลไทยจะไปบอลโลก ผมเองในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทค้าปลีกไทย(บางบริษัท) ย่อมยินดีที่ผู้บริหารได้เปิดประตู

สู่ทุ่งหญ้าใหม่ที่น่าจะนำการเจริญเติบโตมาสู่บริษัทในระยะยาว แต่ทั้งนี้ความเสี่ยงในทางธุรกิจย่อมเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ย้อนกลับมาดูเมืองไทยเราในอดีต เราพอจะเห็นว่าค้าปลีกยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาเมืองไทย เช่น YAOHAN, PRINTEMPS, AM/PM และ DAIMARU ก็ใช่ว่าจะประสพความสำเร็จทั้งหมด

และเมื่อเร็วๆนี้ HARVARD BUSINESS REVIEW ฉบับเดือน APRIL 2012 Marcel Corstjens (The Unilever Chaired Professor of Marketing at INSEAD) กับ Rajiv Lal (Professor of Retailing at Harvard Business School) ร่วมกันเขียนบทความชื่อว่า....

"Retail Doesn't Cross Borders.....Here's why and what to do about it"

บทความนี้กล่าวถึงการเข้าสู่ตลาดค้าปลีกในตลาดต่างประเทศว่าในอดีตทำไมถึงล้มเหลว ทำไมมันถึงไม่ง่าย มีการแสดงข้อมูลว่าตอนนี้

CARREFOUR มี Stores ใน 38 ประเทศ
Walmart มี Stores ใน 15 ประเทศ
TESCO มี Stores ใน 13 ประเทศ

แต่หากมาดูในฟาก Grovery Suppliers เรากลับพบว่า

Coca-Cola มีธุรกิจใน 200 ประเทศ
Danone มีธุรกิจใน 120 ประเทศ
P&G มีธุรกิจใน 180 ประเทศ

ผมก็เลยมาถึงบางอ้อว่าทำไม Warren Buffett ถึงเลือกซื้อ Coke และยังไม่สนใจ WALMART ในหลายปีก่อน พอได้อ่านบทความนี้แล้วทำให้ผมนับถือ Buffett มากขึ้นอีก

ถ้าเพื่อนๆคนใดสนใจในการลงทุนค้าปลีกจริงๆ ผมว่าควรหามาอ่านนะครับ จริงๆผมก็อยากแปลและมาโพสต์ให้แต่คิดว่ามีเรื่อง copyrights จึงเปลี่ยนใจมาโฆษณาให้เขาแทนดีกว่า

[tanutt]

ขอบคุณครับ

[Linzhi]

บทความสุดยอดครับ ขอบคุณครับพี่

ผมพยายามหา grocery suppiler ที่มีศักยภาพโตระดับภูมิภาคเหมือนกัน

แต่ค้าปลีกในมุมนี้ก็มีข้อดี ทำให้บริษัทมี dca ในตัวสูงมากโดยกำเนิด
ถ้าไปโตแล้ว sucesss อย่าง tesco 7-11 casino group ในไทย ยิ่งอยู่ในตลาดเกิดใหม่ด้วย
ก็จะเป็นผู้ชนะในระยะยาว

ถ้าเนิบๆ แบบค้าปลีกในญี่ปุ่น ตลาดก็ไม่ได้ให้ value แล้ว

[punfreedom]

ยกตัวอย่าง แล้วทำให้เห็นมุมมองที่ชัดเจนมากครับ ^^

[patongpa]

ค้าปลีกไทยไปเมืองนอกก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ง่ายๆแบบเมืองเรานะครับ

ในประเทศไทยปล่อยให้เปิดร้านซุปเปอร์สโตร์โลตัส บิ๊คซี + เซเว่น กันมากจนเกินไป อ้างแต่คำว่าเสรี ทั้งๆที่ความจริงเมืองนอกเค้าไม่ยอมหรอกครับ เพราะมันทำให้โชห่วยเจ๊งหมด กระเทือนรายได้ของคนพื้นที่เค้า เท่าที่ดูในต่างประเทศก็มีแต่ไทยนี่แหละที่ปล่อยเสรีให้คนเปิดห้างค้าปลีกได้ง่ายๆ บางห้างตั้งกลางทำเลที่จราจรพลุ๊กพล่านก็ปล่อยให้สร้างให้ทำกัน รถเข้าออกทำจราจรติดขัดมากขึ้นอีกหลายเท่า กลายเป็นลูกโซ่รถติดไปถนนเส้นอื่นด้วย ลำบากกันไปทั้งเมือง

[navapon]

ขออนุญาตคุณ kabu นำบทความดีๆมาลงเสริมนะครับ เห็นว่าน่าสนใจ เผื่อบางท่านยังไม่ได้อ่าน
http://kabuvi.wordpress.com/2012/05/02/ ... %e0%b9%88/

หุ้นค้าปลีกในประเทศญี่ปุ่น
Posted by: kabuvi on: May 2, 2012

In: ทั่วไป Comment!
ถ้าพูดถึงร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย คงไม่มีใครปฏิเสธว่า 7-11 เป็นผู้ครองตลาด ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง family mart อย่างไม่เห็นฝุ่น (7-11 มีจำนวนสาขา ประมาณ 6000 สาขา ในขณะที่ family mart ในไทยมีสาขาเพียงประมาณ 700 สาขา) เท่าที่ผมทราบ family mart มุ่งขยายสาขามากๆ ในประเทศเกาหลีใต้โดยมีสาขาเกือบ 6000 สาขา ในขณะที่ 7-11 ในเกาหลีมีสาขาอยู่ประมาณแค่ 3500 สาขา ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม family mart ในประเทศไทยไม่มุ่งขยายสาขาเพื่อสู้กับพี่ใหญ่อย่าง 7-11 ใครรู้ช่วยบอกผมด้วยนะครับ ^^

เร็วๆนี้ผมได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับหุ้นค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมโดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นร้านสะดวกซื้อ ประเทศญี่ปุ่นมีร้านสะดวกที่มี Market Cap ใหญ่ๆ อยู่ 3 เจ้าคือ Seven-Eleven, Lawson, Family Mart, โดยทั้ง 3 เจ้ามีจำนวน สาขาที่เปิดในประเทศ/ต่างประเทศ รวมทั้งหมดตามข้อมูลด้านล่าง (as of 2/2011)

Seven Eleven: ในประเทศ 13,232 สาขา/ ต่างประเทศ 40,871 สาขา
Lawson: ในประเทศ 9,994 สาขา/ ต่างประเทศ 319 สาขา
Family Mart: ในประเทศ 8,248 สาขา/ ต่างประเทศ 9,350 สาขา

ดูจากตัวเลขจะเห็นได้ว่า Seven Eleven กับ Family Mart เน้นทั้งธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นเองและต่างประเทศ ส่วน Lawson เน้นขยายสาขาในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก และไม่ได้ออกไปนอกประเทศมากนัก แต่จากข่าวล่าสุด Lawson เริ่มเน้นรับพนักงานที่เป็นคนต่างชาติมากขึ้น และมีแผนมุ่งขยายสาขาในประเทศจีน และ ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ได้ร่วมกับ MIDI ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจค้าปลีกและโลจิสติกสัญชาติอินโดนีเซียเพิ่อเปิดร้านสะดวกซื้อแบรนด์ Lawson ในประเทศอินโดนีเซียเอง

ถ้าดูในส่วนของ forward P/E, PBV, ROE, ROA (as of 2/5/2012) ตามข้อมูลและประมาณการของ Rakuten Securities ที่ผมใช้อยู่จะได้ข้อมูลตามด้านล่าง

Seven Eleven: PE 13.71 / PBV 1.2 / ROE 6.6% / ROA 3.0%

Lawson: PE 16.09 /PBV 2.53 / ROE 12.5% / ROA 5.3%

Family Mart: PE 16.40 / PBV 1.56 / ROE 8.6% / ROA 4.1%

สำหรับการเติบโตในส่วนของรายได้และกำไร ของแค่ละบริษัทก็ไม่ได้กระโดดมากนัก อยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ดูแล้วการขยายสาขาภายในประเทศญี่ปุ่นเองในขณะนี้ค่อนข้างชะลอตัว แต่จะไปโตในต่างประเทศมากกว่า ถ้าดูคร่าวๆ ทั้งสามบริษัท แล้วให้ผมเลือก ผมคงเลือกลงทุนใน Lawson เนื่องจากมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนั้นจากการสนับสนุนของบริษัทแม่อย่าง Mitsubishi Corporation ซึ่งมีเครือข่ายค้าปลีกและโลจิสติกแข็งแรงในประเทศจีน ทำให้ Lawson มีโอกาสขยายธุรกิจเพิ่มเติมในประเทศจีนอีกด้วย อย่างไรก็ตามถ้าให้ผมเอาบริษัทอื่นๆเข้ามาประกอบการตัดสินใจด้วย ผมคงไม่เลือกทั้งสามบริษัท ^^”

จากที่ผมดูบริษัทอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่น หลายๆบริษัทมี P/E 10 กว่าๆ และบางบริษัท P/E < 10 ซึ่งถ้ามาดูบริษัทในกลุ่มค้าปลีกที่ซื้อขายกันในประเทศไทยจะเห็นว่าส่วนใหญ่มี P/E > 20 ยิ่ง CPALL ตอนนี้ ซื้อขายกันที่ P/E มากกว่า 40 …. เหตุผลส่วนหนึ่งอาจจะมาจาก การที่ 7-11 ในประเทศไทยนั้นถือได้ว่าเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ทำกำไรเติบโตสูงได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นร้านสะดวกซื้อบริษัทเดียว ที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ ถามว่า 7-11 ตอนนี้ซื้อขายกันที่ P/E สูงเกินไปรึป่าว อาจจะตอบยาก เพราะดูแล้ว 7-11 ยังมีโอกาสเติบโตต่อไปเรื่อยๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ล่าสุดสนใจจะขยายไปในส่วนของประเทศจีนและเวียดนามด้วย น่ายินดีสำหรับผู้ถือหุ้นในบริษัทที่มีผู้บริหารและทีมงานที่มีความสามารถครับ ^^

[Samathi]

ค้าปลีกโตนอกประเทศยากส่วนหนึ่งเพราะกฎหมายครับ หลายๆประเทศห้ามบริษัทต่างชาติทำค้าปลีก โดยเฉพาะค้าปลีกขนาดเล็ก

[อินทรีย์ทองแดง]

ผมก็เลยมาถึงบางอ้อว่าทำไม Warren Buffett ถึงเลือกซื้อ Coke และยังไม่สนใจ WALMART ในหลายปีก่อน พอได้อ่านบทความนี้แล้วทำให้ผมนับถือ Buffett มากขึ้นอีก

และนี่ก็เป็นสาเหตุที่พี่คนขายของเลือกโออิชิมากกว่าhmproหรือbigc ใช่ป่าวครับ อิอิ