สหพัฒน์ กุมขมับ คาดรายได้ทั้งเครือหาย6.5พันล้าน

[phobenius]

อืม แปลกเนอะ คิดไงกันบ้างครับ ส่วนตัวไม่แน่ใจ ผลกระทบน่าจะมาจากค่าเงินบาทโดยตรง ผนวกกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดแทน


ประธานเครือสหพัฒน์ ชี้เศรษฐกิจปี 2550 เข้าขั้นวิกฤติหนักยิ่งกว่ายุคฟองสบู่แตกปี 2540 คาดจีดีพีส่อเค้าอาจติดลบครั้งแรกรอบ 20 ปี ตลาดอุปโภคบริโภค สินค้าแฟชั่นยอดขายวูบ รากหญ้ากำลังซื้อหาย สหพัฒน์ ชูนโยบาย Minus Marketing ตั้งผลประกอบการติดลบ 5% ครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี แนะรัฐเร่งจัดการเลือกตั้ง แก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง หวังอีกครึ่งภาวะเศรษฐกิจฟื้น
     
      นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา  ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยปีนี้เกิดวิกฤติหนักมากเมื่อเทียบกับวิกฤติเศรษฐกิจ ปี 2540 แม้ว่าภาครัฐจะประมาณการณ์ว่าปีนี้จีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมจะมีอัตราการเติบโต 4% ก็ตาม แต่ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจประมาณการณ์ว่าจีดีพีอาจจะติดลบครั้งแรกในรอบ 20 ปี เนื่องจากปัจจัยลบรุมเร้า อาทิ สถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่งทำให้เศรษฐกิจไม่ขับเคลื่อน ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรจำหน่ายได้ราคาต่ำ ซึ่งปกติภาคเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของคนไทยระดับรากหญ้า และเป็นฐานประชากรที่มีมากในประเทศ
     
      สิ่งที่ภาครัฐต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ การแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก มากกว่าจะมาแก้ปัญหาด้านการเมือง โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า ให้อ่อนตัวลงต่ำกว่า 37 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมถึงลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งภาครัฐควรพิจารณาว่า จะนำมาตรการใดกระตุ้นเศรษฐกิจ วิธีที่ดีที่สุด คือ ทำให้มีการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้พบว่าอำนาจการซื้อลดลงอย่างมาก อัตราการบริโภคทุกอย่างลดลงทั้งหมด โดยสินค้าบริโภคไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนสินค้าอุปโภคหรือสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำได้รับผลกระทบบ้าง ขณะที่สินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มเสื้อผ้า เครื่องสำอาง
     
      มาตรการที่ภาครัฐนำมาใช้ทำไม่ถูกจังหวะ อย่างมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย เป็นกลยุทธ์การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช้ามาก ซึ่งถ้าภาครัฐแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ประมาณครึ่งปีทิศทางเศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีขึ้น สำหรับในฐานะนักธุรกิจคนไทย อยากให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด และรอรัฐบาลชุดใหม่มาดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้บริหารประเทศชาติให้ก้าวหน้า มากกว่าเป็นการบริหารเพื่อครอบครัวและเครือญาติ เพราะขณะนี้ต้องผจญกับคู่แข่งที่น่ากลัว อย่างเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเป็นประเทศที่มาแรงและน่ากลัวกว่าประเทศจีน
     
      เครือสหพัฒน์ชี้สิ้นปีรายได้ติดลบ
      นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทสหพัฒน์ทั้งเครือ ได้นำกลยุทธ์ Minus Marketing หรือการมีผลประกอบการที่ติดลบ 5% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี หรือตั้งแต่เครือสหพัฒน์ก่อตั้งขึ้นมา (ประเมินจาก 5% จากรายได้รวมปีที่แล้ว 1.3 แสนล้านบาท เท่ากับหายไป 6.5 พันล้านบาท) โดยปรกติกลุ่มสหพัฒน์จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้ 1.3 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 บริษัทดำเนินกลยุทธ์ Zero Marketing หรือการมีผลประกอบทรงตัวไม่มีอัตราการเติบโต
     
      ขณะที่บริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กลุ่มเสื้อผ้าคิดเป็นสัดส่วน 10% ยอดขายรวม ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมายอดขายลดลง 20-30% นับเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคไทย มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย สอดคล้องกับการดัชนีชี้วัดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 10%
     
      ลงทุนระมัดระวังปีหน้าโตในเชิงบวก
      สำหรับปีนี้ด้านการลงทุนบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยลงทุนเฉพาะค่าเสื่อมเท่านั้น แต่บริษัทไม่ได้ชะลอการลงทุน เพราะมองว่าไทยยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ล่าสุดในงาน Saha Group Export & Trade Exhibition ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับประเทศต่างๆ ในแถบเอเชีย อาทิ เวียดนาม  กัมพูชา อินเดีย สำหรับภายในงานปีนี้เน้นคอนเซ็ปต์ Innovation to the world จำหน่ายเครื่องสำอาง เครื่องหนัง สิ่งทอ รองเท้า เครื่องใช้ภายในบ้าน เสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเบ็ดเตล็ด ลดราคาถึง 30% เพื่อรองรับกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง
     
      โดยงานเริ่มระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-1 ก.ค.นี้ ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  คาดว่าจะมีประชาชนสนใจร่วมงานกว่า 3 แสนคน อย่างไรก็ตามหากภาครัฐมีมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปีหน้านี้เครือสหพัฒน์จะกลับมามีผลประกอบการในเชิงบวกอีกครั้ง
     
      ไอ.ซี.ซีฯอัดกิจกรรมดันยอดโต10%
      นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องแต่งกาย ลาคอส เครื่องสำอางบีเอสซี ฯลฯ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดขายต่ำกว่าเป้า 5- 6% ต่ำที่สุดรอบใน 10 ปี สาเหตุเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอผสมผสานกับการเมืองที่ชะลอตัว ที่เกิดขึ้นจึงส่งผลให้ยอดตกต่ำลงไป ทำให้บริษัทจำเป็นต้องทำตลาดด้วยการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ใช้งบกระตุ้นตลาดมากขึ้น รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดอยู่เสมอแต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
     
      ทั้งนี้บริษัทฯยอมรับว่าต้องปรับเป้ายอดขายทั้งปี เมื่อดูจากตัวเลขในช่วงต้นปี การทำตลาดน่าจะยากขึ้น เดิมที่ตั้งการเติบโตไว้ที่ 15% จากยอดขายปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 13,500 ล้านบาท ถ้าการเติบโตสามารถทำได้ 10% ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งตรงจุดนี้บริษัทเชื่อว่าจะทำได้อยู่เนื่องจากว่าช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่จบคดียุบพรรค ความชัดเจนทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจนขึ้น การลงทุนมีการขยับขยายตัว ส่งต่อให้เศรษฐกิจอาจดีขึ้นอยู่บ้าง

[woody]

ผมงงว่า GDP จะถึงขั้นติดลบเลยหรือครับ

[phobenius]

ผมก็งงๆ ไม่รู้บริษัทอื่นเป็นไงหว่า

[007-s]

อืมม แกวิเคราะห์ขนาดว่า แย่กว่าปี 40 หูย ขนาดนั้นเลยอ่ะรึ

แต่เท่าที่ฟังๆจากพวกร้านค้า 6 เดือนที่ผ่านมานี่คือแห้งหนักเลย (ก่อนหน้านี้ก็แย่มาตลอดเป็นปี แต่มาแห้งมาก คือหลังๆ)

ร้านที่รู้จักกัน ร้านนึงขอยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่กะทางห้าง ห้างบอกขอให้ช่วยย้ายไปอยู่ขนาดที่เล็กลงหน่อย ลดต้นทุนลง เขาเลยลองทู่ซี้ดูอีกสามเดือน

อีกร้าน เดิมทีทำเอง ตอนนี้ไม่ทำแล้ว ปล่อยต่อให้เช่าช่วงกินเงินดีกว่า (พื้นที่เขาเช่ายาวมานานแล้ว คิดต้นทุนเดิม พอได้กำไรก้เอาแล้ว) คนนี้มีสองร้าน ร้านแรกน่ะ ขายทั้งยวงไปก่อนหน้านี้แล้วร้านนึง

แต่ว่า วันหลังจบคดียุบพรรค ไปเดินสำรวจมา ตามห้างเริ่มคึกขึ้นนะ สีหน้าผู้คนเริ่มมีสีเลือดฝาดอมชมพูกันบ้างประปราย
เท่าที่สังเกตุดู พวกอาหารคึกคักหน่อย แต่พวกสินค้า โดยเฉพาะสินค้าส่วนเกินจำเป็นนี่ ไม่แน่ใจ

ดอกฝากเตี้ยติดดิน พวกคอนโดติดรถไฟฟ้า เปิดตัวมาก็ยังขายดีอยู่ เห็นว่า บางทีคนมีกะตังค์มากๆ เขาก็ว่าแบ่งมาซื้อพวกนี้มั่ง เสี่ยงน้อยกว่าไปลงทุนธุรกิจอะไรอื่นๆ

แต่น้องคนนึง เขากะลังเริ่มก่อสร้าง จะเปิดร้านอาหาร บอกไม่กลัว จะเปิดตอนไหนก็ต้องทำอยู่ดี แต่สายป่านต้องยาวจริง และต้องเป็นมืออาชีพทางนั้นอยู่แล้วจริงๆ ทำการงานต้องเข้าใจจริง ตั้งใจทำให้ที่สุดก็โอเคแล้ว
เรื่องมรสุมภายนอก ไปห้ามไงมันก็ต้องเกิด เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เมื่อไม่รู้ ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งรอมัน

ก็ต่างมุมมองนะ

[path2544]

ประเด็นสำคัญ มันอยู่ที่ประโยคนี้อ่ะ  :lol:  :lol:  :lol:

สำหรับปีนี้ด้านการลงทุนบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยลงทุนเฉพาะค่าเสื่อมเท่านั้น แต่บริษัทไม่ได้ชะลอการลงทุน เพราะมองว่าไทยยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ล่าสุดในงาน Saha Group Export & Trade Exhibition ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับประเทศต่างๆ ในแถบเอเชีย อาทิ เวียดนาม  กัมพูชา อินเดีย สำหรับภายในงานปีนี้เน้นคอนเซ็ปต์ Innovation to the world จำหน่ายเครื่องสำอาง เครื่องหนัง สิ่งทอ รองเท้า เครื่องใช้ภายในบ้าน เสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเบ็ดเตล็ด ลดราคาถึง 30% เพื่อรองรับกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง
     
     โดยงานเริ่มระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-1 ก.ค.นี้ ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  คาดว่าจะมีประชาชนสนใจร่วมงานกว่า 3 แสนคน อย่างไรก็ตามหากภาครัฐมีมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปีหน้านี้เครือสหพัฒน์จะกลับมามีผลประกอบการในเชิงบวกอีกครั้ง

[ปรัชญา]

แล้วรัดถะบง  รัดถะบวม บอกเศรษฐกิจฟื้นแล้ว

มาดูบ้านนอกซิ  



เหว๋อ


พ่อค้านั่งเฝ้าร้าน  ผีมันจะหรอกกลางวัน

นี่ล่ะมั่งจตุคามถึงขายดี  เขาซื้อไว้กันผีมาหลอก

[fantasia]

ล่าสุด GDP ไตรมาสแรกโต 4% กว่า ๆ ยังไม่รวมเงินเฟ้อ

เท่าที่อ่านดูยังไม่เจอตรงไหนที่พูดตรง ๆ ว่ายอดขายทั้งหมดของเครือสหพัฒติดลบเลย
พูดแต่ว่าผลประกอบการติดลบ กับการคาดการณ์ว่าสิ้นปีรายได้ไม่โต
ไอ้กลยุทธ minus 5% อะไรนั้นก็เป็นการตลาดอย่างนึง แล้วเอา 5% มาคูณยอดขายปีก่อน แล้วก็บอกว่ารายได้หาย 6,500 ล้าน
ไม่ได้หมายถึงว่ารายได้รวมหาย 6,500 ล้านนะครับ
สรุปก็คือจะบอกว่าตัวเองขายของถูกเอากำไรน้อยลงเท่านั้นแหละ
ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้นจริงแล้วทำให้กำไรลดลงจริง ก็ขออนุโมทนาบุญให้ครับ
ที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามที่เศรษฐกิจทำท่าจะไม่ค่อยดีเช่นนี้

เพื่อน ๆ ที่ถือหุ้นในเครือสหพัฒก็คงต้องทำใจกันหน่อยนะครับ
ผมก็ถืออยู่ตัวนึงเหมือนกัน  

[hot]

เมื่อวานผมดูครอบครัวนักมวย ลูก12-15คน
ผมว่าเขาเลี้ยงลูกดีมากคับ

ถ้าgdp ตก  อยากให้รวม การฝึกมวยไทยในระบบการศึกษาภาคบังคับจังคับ

[สุมาอี้]

ผมขอไปซื้อหุ้นของบริษัทที่เวลายอดขายตกแล้วเขาไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาลดีกว่าอ่ะ

[Ryuga]

Q แรกกำไร SPC  -9.2% SPI  -26.8% แต่ตอนต้นปี 49 ที่น้ำมันกะลังพุ่งแรง Q1/49 เทียบ 48 กำไรกลับเพิ่มกันทั้งคู่ :lol: มาม่าเจ้านึงล่ะ Q แรกปีนี้ -8.6% กำไรสหพัฒน์ร่วงเลย

[chatchai]

ใครเชื่อบ้างว่าแย่กว่าปี 2540  ยกมือขึ้น   :lol:    :lol:  

เศรษฐกิจของกลุ่มสหพัฒน์  หรือว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมหว่า

[tanate@man]

เข้ามาฮาด้วยคนครับ  :lol:

[ปรัชญา]

ใครเชื่อบ้างว่าแย่กว่าปี 2540  ยกมือขึ้น   :lol:    :lol:  

เศรษฐกิจของกลุ่มสหพัฒน์  หรือว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมหว่า

ผมท้าได้เลยแย่กว่าปี40

นอกจากคนไม่เคยค้าขายล่ะบอกว่าดี

รากหญ้าแย่  ดีแต่คนมีรายได้ประจำคือคนทำงานรับราชการ
เมื่อวานเปลี่ยนแอร์  คุยกับเจ้าของร้าน  บอกปี36-40ลดค่าเงินบาท
มันไม่กระทบชนชั้นรากหญ้าพ่อค้ารายเล็ก

ปีนี้รับไปเต็มๆ

[chatchai]

รากหญ้าอาจจะแย่กว่าปี 40  เพราะครั้งนั้นค่าเงินบาทอ่อนลงอย่างรวดเร็ว  สินค้าเกษตรบางชนิดส่งออกก็ได้ส้มหล่น

ส่วนชนชั้นกลาง  เจ้าของกิจการรายกลาง  รายใหญ่  ล้มละลายกันเป็นทิวแถว  พนักงานถูกบังคับให้ออกมากมาย

บริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่งถูกปิดตัวลง  พร้อมกับการตกงานของพนักงานเป็นหมื่นๆคน

พนักงานธนาคารถูกบังคับให้ออกหลายร้อยคนในแต่ละแห่ง  

ธนาคารพาณิชย์ของคนไทยหลายแห่งต้องขายให้ต่างชาติ

ธุรกิจค้าปลีก  ไม่ว่าจะเป็น  โลตัส  บิ๊กซี  TOP Supermarket  ต้องขายให้ต่างชาติ

ปูนซีเมนต์นครหลวงก็ต้องขายให้ต่างชาติ

อาคารคอนโดมิเนียม  อาคารสำนักงาน  เป็นอาคารร้างเต็มกรุงเทพ  และพัทยา

ชนชั้นกลางของประเทศเป็นแสนคนที่ต้องขาดทุนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  จากการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ผิดนัดชำระหนี้กันมากมาย

ยอดขายรถยนต์  ยอดขายบ้าน  ลดลงกว่า 50%

สัญญาณเหล่านี้  ปีนี้  ผมยังไม่เห็นนะครับ  

เศรษฐกิจที่ซวนเซในปีที่แล้วจนถึงปีนี้  ผมว่าเกิดขึ้นในขณะที่ประชาชน  ธุรกิจเอกชน  และรัฐบาล  ยังไม่ได้ใช้จ่ายเกินตัวมากนัก  หนี้สินไม่ได้สูงมากมาย  มีปัญหาก็ยังคงประคองตัวไปได้ครับ  

บริษัทในตลาดส่วนใหญ่ก็กำไรโตน้อยลงบ้าง  กำไรลดลงบ้าง  แต่ก็ยังมีกำไรนะครับ

ผู้คนจะจับจ่ายใช้สอยน้อยลงบ้าง  แต่ก็ยังมีงานทำ  มีรายได้บ้าง

[ปรัชญา]

รากหญ้าอาจจะแย่กว่าปี 40  เพราะครั้งนั้นค่าเงินบาทอ่อนลงอย่างรวดเร็ว  สินค้าเกษตรบางชนิดส่งออกก็ได้ส้มหล่น

ส่วนชนชั้นกลาง  เจ้าของกิจการรายกลาง  รายใหญ่  ล้มละลายกันเป็นทิวแถว  พนักงานถูกบังคับให้ออกมากมาย



บริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่งถูกปิดตัวลง  พร้อมกับการตกงานของพนักงานเป็นหมื่นๆคน

ต้องไปขับแท็กซี่

พนักงานธนาคารถูกบังคับให้ออกหลายร้อยคนในแต่ละแห่ง  

ธนาคารพาณิชย์ของคนไทยหลายแห่งต้องขายให้ต่างชาติ
เพราะNPL  และอื่นๆ  ของเก่ายังเก็บขายกันไม่หมด  มารวมอีกรอบ1+1

ธุรกิจค้าปลีก  ไม่ว่าจะเป็น  โลตัส  บิ๊กซี  TOP Supermarket  ต้องขายให้ต่างชาติ

โลตัส  เป็นการร่วมทุนระหว่างซีพีกรุ๊ปกับทุนต่างชาติ
เพื่อว่าผลประโยชน์ของซีพี  จะได้ส่งไก่และอื่นไปวางขายในโลตัสต่างประเทศ

ปูนซีเมนต์นครหลวงก็ต้องขายให้ต่างชาติ

อาคารคอนโดมิเนียม  อาคารสำนักงาน  เป็นอาคารร้างเต็มกรุงเทพ  และพัทยา
ที่ร้างเพราะขาดเงินทุนหมุนเวียน  เจ้าหนี้ไม่ปล่อยกู้

ชนชั้นกลางของประเทศเป็นแสนคนที่ต้องขาดทุนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  จากการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ผิดนัดชำระหนี้กันมากมาย

ยอดขายรถยนต์  ยอดขายบ้าน  ลดลงกว่า 50%
ตอนนี้ก็ยึดกันทุกวัน  รอบนี้มอเตอร์ไซด์  ที่วางเงินดาวน์999บาทก็เอาไปขับได้
พรรคพวกเพื่อนฝูงที่เปิดร้านขายเริ่มหยุดปล่อย  และติดตามยึด

สัญญาณเหล่านี้  ปีนี้  ผมยังไม่เห็นนะครับ  

เศรษฐกิจที่ซวนเซในปีที่แล้วจนถึงปีนี้  ผมว่าเกิดขึ้นในขณะที่ประชาชน  ธุรกิจเอกชน  และรัฐบาล  ยังไม่ได้ใช้จ่ายเกินตัวมากนัก  หนี้สินไม่ได้สูงมากมาย  มีปัญหาก็ยังคงประคองตัวไปได้ครับ  

บริษัทในตลาดส่วนใหญ่ก็กำไรโตน้อยลงบ้าง  กำไรลดลงบ้าง  แต่ก็ยังมีกำไรนะครับ

ผู้คนจะจับจ่ายใช้สอยน้อยลงบ้าง  แต่ก็ยังมีงานทำ  มีรายได้บ้าง
ปีนี้  7-11  โลตัส  บิ๊กซี  แม็คโคร  
แข็งแรง  พ่อค้าตามหัวเมืองที่เคยส่งลูกหลานเรียนจบแพทย์  วิศวะ  อื่นปริญตรี
ต่อแต่นี้เอาแค่อาชีวะ  แล้วไปรับจ้างห้างเหล่านี้

ตามต่างจังหวัด  ที่ดินว่างเปล่า  
และพวกก่อสร้างอาคารพานิชย์ขายไม่ได้ทิ้งร้างนับไม่ถ้วน
ติดประกาศขาย  ทั่วตลาดตามอำเภอ  และหัวเมือง
ผู้ประกอบการก่อสร้างรายกลางและเล็กเจ๊งไปเยอะเลยรอบนี้
แบ๊งค์เดินสายขายสินทรัพย์ของธนาคารทีละจังหวัด  อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปี40ก็ไม่มีการเดินสายขายพร้อมปล่อยกู้  อื่นๆ

[ปรัชญา]

อ้าวแถวนี้ไม่ติด

พนักงานธนาคารถูกบังคับให้ออกหลายร้อยคนในแต่ละแห่ง  

ได้เงินชดเชยมาเป็นก้อนสำหรับการเริ่มต้นใหม่

แล้วรากหญ้ารอบนี้  สร้างหนี้โดยรัฐบาลทัก
เป็นเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย  ที่เบ่งบานได้ทุกวัน

เงินชดเชยไม่เคยได้เหมือนชนชั้นกลาง

[chatchai]

รอบก่อนคงเป็นคราว  รายใหญ่  คนเมืองกรุง

รอบนี้คงเป็นคราว  คนหัวเมือง มั๊งครับ

แต่ยังไง  ถ้าคิดภาพรวมทั้งประเทศ  เศรษฐกิจของรายใหญ่  และคนเมืองกรุง  ก็สูงกว่า  คนหัวเมือง  

GDP ของประเทศเลยยังโตอยู่ได้  แต่ครั้งก่อนติดลบเกือบ 10%  มากอย่างไม่เคยมีมาก่อน  และไม่น่าจะมีอีกในอนาคต

[BHT]

ผมว่าแย่เหมือนกัน แต่แย่คนละแบบ ถ้าการเมืองเลือกตั้งได้เร็ว ทุกอย่างก็น่าจะกับสู่สภาวะปกติ

แต่เรื่องของรายบุคคลหรือรายบริษัทก็บอกยากครับ บางคนมีงานทำ บางคนตกงาน บางคนยอมเงินเดือนน้อยดีกว่าว่างงาน แล้วแต่คน บางบริษัทก็กำไรดี บางบริษัทก็กำไรน้อย แล้วแต่บริษัทครับ

[No Name]

ปี 2540 บริษัทขนาดใหญ่และกลางได้รับผลกระทบอย่างมากจากการลดค่าเงินบาท  โดยขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้จากต่างประเทศ เพราะไม่คิดว่า รัฐบาลจะลดค่าเงินบาท  บริษัทส่วนใหญ่จึงกู้เงินนอกเข้ามา   ชนชั้นกลางได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างหรือลดเงินเดือนและโบนัส   ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์ส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกของไทยโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เกษตรกรจึงได้ประโยชน์และไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่กลางและชนชั้นกลาง

ปี 2550 คาดว่า ชนชั้นล่างน่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด  เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการถูกกระตุ้นให้ใช้จ่ายเป็นหนี้จากบัตรเครดิต นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นก็ส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร

ปี 2540 เป็นวิกฤตของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่กลางที่กู้เงินนอก  แต่ในปี 2550 จะเป็นปีที่ย่ำแย่ของกลุ่มรากหญ้าซึ่งมีภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้น

ผู้นำกลุ่มสหพัฒน์ จึงคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบมากจากกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนลงและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอุปโภค เช่น เสื้อผ้าเครื่องสำอาง  ส่วนกลุ่มบริโภค เช่น หมวดอาหารจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

[keng56]

รากหญ้าไม่แข็งแรงแล้วต้นหญ้าจะแข็งแรงได้อย่างไร     แล้วถ้ารากหญ้าตายต้นหญ้าทำไงล่ะทีนี้.....

[Capo]

ปีนี้ลำบากกว่าปี 40 ครับ

ปี 40 บ้านผมโดนโกงไป 20 ล้าน
หลังจากนั้นขายเปิดเปิงเลยครับ
ขายดีมาก ๆ ครับ

ผมมองย้อนกลับไปตอนนั้น
ก็ยังงงด้วยซ้ำที่ว่าโดน Crisis
แต่ทำไมก็ยังกลับมาได้

แต่ปลายปีก่อนซึ่งจะเป็นช่วง High Season
ยอดหายไป 40% ครับ แล้วของเก่าออกมาเต็มตลาดไปหมด

ทุกวันนี้ไม่ได้จตุคาม ผมคงได้ไปพับถุงขายล่ะครับ  :lol:

.........

[opec]

ผมว่าเป็นเพราะว่า รากหญ้าใช้ เงิน + สินเชื่อ หมดไปนานแล้ว

เอาเงินไปดาวน์ ไปผ่อน สินค้าฟุ้มเฟือยมาใช้ ช่วงก่อนหน้านี้หมดแล้ว

ตอนนี้ก็ได้แต่ตามผ่อนสินค้าที่ใช้เงินในอนาคตซิ้อมา

เพราะตอน 40 รากหญ้า ( ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ) ไม่มีโอกาสได้ใช้สิรนเชื่อบุคคล

ตามความรู้สึก รู้สึกว่า รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์มือถือ มือสองล้นตลาดรึเปล่าครับ

[ลุงทีม]

ผมไม่เชื่อว่าแย่กว่าปี 40 อะ เพราะอย่างน้อยเด็กจบใหม่ๆสมัยนี้ก้อยังพอหางานทำได้

สมัยโน้นจำได้เลยว่า...ทันทีที่ลดค่าเงินบาท
-จบมาหางานทำยากมาก
-หลายๆบริษัทธุรกิจกำลังไปได้ ต้องมีอันเป็นไป e.g. tpi, tpipl เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด สมัยก่อนอู้ฟู่มาก จ้างเงินเดือน engineer กัน 20k-30k up etc
-bank ล้ม
-คนโดนlay off เป็นว่าเล่น
-คนพอมีเงินเก็บก็ไม่กล้าใช้จ่าย
-หลวงตาบัว ต้องรณรงค์ บริจาคเงิน US
-ปัญหามันรุนแรงและเรื้อรังยาวนานเกือบ 3-4 ปีกว่าจะเริ่มฟื้น


-พวกทำส่งออกรวย ธุรกิจกำไรทันที 40%-50%

บอสัดมันเจอค่าเงินแข็งต่อเนื่องปรับตัวไม่ทัน ก็ออกมาโวยซะมากกว่า...  :shock:  :shock:

[terati20]

[quote="ปรัชญา"]อ้าวแถวนี้ไม่ติด

พนักงานธนาคารถูกบังคับให้ออกหลายร้อยคนในแต่ละแห่ง

[ลุงทีม]

อีกอย่าง...พวกเมนูอาหารสำหรับคนตกงานยอดฮิตสมัยนั้น พวกมาม่าผัดกระเพราะ มาม่าผัดขี้เมา มาม่าผัดซีอิ้ว ก็โด่งดังมาจากยุคนั้นไม่ใช่เหรอ

สมัยนี้ถ้าคุณมีตังค์คุณจะสอนลูกสอนหลานให้กินเหรอ...  :shock:  :shock:

[ปรัชญา]

เเต่รากหญ้า ไม่ต้องคืนเงินกู้ จ้า
เพราะเข้าใจว่าเบี้ยวหนี้ ซักพัก เเล้ว รัฐ
จะยกหนี้ให้เองงงงงง

:lol:  :lol:  :lol:

555  ตำรา  ไม่มี  ไม่หนี้   ไม่จ่าย

คนค้ำประกัน  ก็ถูกทวงถาม
ชีวิตคนเป็นหนี้ไม่มีความสุขหรอกครับ

เพราะกว่าจะรู้ตัวว่าไม่ไหว  ก็จ่ายมาตลอด
อย่างมอตำไซด์  ดาวน์999บาท  ผ่อนงวดละ1,750บาท  36งวด
จ่ายดาวน์เอามาขี่  ผ่อนได้งวดที่5หรือ6หยุดส่ง  หรือผ่อนไปได้ปีเลิกส่ง
ครบ3เดือนตามยึด

แต่กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ไหว
พ่อ-แม่-พี่-น้อง-เพื่อนฝูง  
ถูกหยิบยืมมาจ่าย  พังทั้งระบบ
ขี่คนเดียว  เดือดร้อนคนรอบตัว

เนื่องจากไม่มีเงินเติมน้ำมัน  ก็ถอดเข็มไมล์ขายก่อน  อิอิ


เมื่อยึดรถได้  ไม่อยู่ในสภาพเดิม  
บริษัทลิสซิ่ง  ก็ดำเนินการฟ้องร้อง  มันไม่จบ
หากไม่สู้คดียอมชดใช้  ก็ต้องหนีออกนอกพื้นที่  
เร่ร่อนไปทำงาน  กทม.หรือต่างจังหวัด
 (เขาเรียกเวรตามทัน  กรรมติดจรวด)

จึงจากว่าจะรอให้  รัฐยกหนี้ให้  ขนาดเกษตกรกู้ไปเลี้ยงไก่
พอหวัดนกมา  ไปจับไก่แล้วชดเชยให้เจ้าของฟาร์ม
ค่าชดเชยยังไม่พอ  
เงินที่ได้มายังไม่พอจ่ายค่าอาหารเจ็กในตลาดเลย

เวร-กำ

[Alastor]

ผมขอไปซื้อหุ้นของบริษัทที่เวลายอดขายตกแล้วเขาไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาลดีกว่าอ่ะ

5555

[HI.ผมเอง]

5555

ผมว่าปีนี้ ผู้บริหารหลายๆบมจ.หรือไม่ก็ทั้งหมด น่าจะดีใจที่มีข้ออ้างนะ เวลาประชุมผู้ถือหุ้น

ตอนปี40 บอก ลอยค่าเงินบาท
44 บอก 9/11
46 บอก ยอดขาย+กำไรที่เพิ่มขึ้น ฝีมือตูล้วนๆ :lol:
ทั้งๆที่46มีทังโรคซาร์ทั้งสงครามอิรัก
เห็นมั๊ย ขนาดมีเรื่องแย่ๆตั้ง2เรื่อง นะเนี่ย  ฝีมือล้วนๆ :lol:

48 บอก โอ้ย หวัดนก+ภาคใต้ฉุดความเชื่อมั่น
49 บอก น้ำมันมันแพง 8)

[chatchai]

สินค้าบางประเภทมียอดขายลดลงก็ดีนะครับ  ประเภท  เครื่องสำอาง  เสื้อผ้าราคาแพงๆ  สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง

[คลายเครียด]

เสี่ยบุณยสิทธิ์   คงไม่นับบริษัทรุ่นหลานแบบฟาร์มเฮ้าส์
อยู่ในเครือสหพัฒน์
ฟาร์มเฮ้าส์  ยอดขายทำเรคคอร์คไฮทุกปี
ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์มา  
ปัญหาของฟาร์มเฮ้าส์อยู่ที่ค่าใช้จ่าย

เลยมีรายได้เพิ่มแต่กำไรไม่เพิ่ม

 :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops:  :oops: