ครม.อินเดียไฟเขียวค้าปลีกต่างชาติลงทุนโดยตรง
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2011 7:27 am
ครม.อินเดียไฟเขียวค้าปลีกต่างชาติลงทุนโดยตรง-เปิดช่องวอล-มาร์ท-คาร์ฟูร์รุกลงทุนได้100%
คณะรัฐมนตรีอินเดีย ตัดสินในอนุญาติให้ต่างชาติลงทุนโดยตรงมากขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศที่มีขนาดใหญ่ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารของอินเดียและเปิดตลาดอินเดียให้บรรดาเครือข่ายค้าปลีกระดับโลกเข้าไปมีส่วนร่วมในการชิงส่วนแบ่งตลาดอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ เครือข่ายผู้ค้าปลีกชั้นนำโลก อาทิเช่น วอล-มาร์ท คาร์ฟูร์ เทสโก้ และอีเกีย พยายามล็อบบี้มาโดยตลอด เพื่อขอโอกาสทางธุรกิจในอินเดีย ที่มีกำลังซื้อมากถึง 1.2 พันล้านคน ด้วยการเข้าไปตั้งร้านค้าปลีก เทียบกับที่ผ่านมา บรรดาผู้ค้าปลีกข้ามชาติเข้าไปดำเนินธุรกิจในดินแดนแห่งนี้ ผ่านทางการจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ค้าส่งสัญชาติอินเดียเป็นหลัก
ภายใต้กฏหมายใหม่ที่คณะรัฐมนตรีอินเดียอนุมัตินี้ จะทำให้เครือข่ายค้าปลีกข้ามชาติเข้ามาลงทุนโดยตรงในอินเดียเพิ่มขึ้น 51% นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังอนุญาติให้บรรดาบริษัทค้าปลีกจากต่างชาติ ที่มีแบรนด์เดียว เข้าลงทุนโดยตรงในประเทศได้ 100% จากเดิมที่อนุญาติให้ลงทุนได้ในสัดส่วน 51% เท่านั้น
บรรดาผู้สนับสนุน มองว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานที่ค่อนข้างมีจุดอ่อนมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งจุดอ่อนที่ว่า มีทั้งการที่อาหารเน่าเสียง่าย โครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานย่ำแย่ ระบบการขนส่งไม่มีประสิทธิภาพ และระบบการซื้อขายผ่านคนกลาง ซึ่งรัฐบาลคาดการณ์ว่าความเสียหายในส่วนนี้มีสัดส่วนประมาณ 30% ซึ่งทำให้ต้นทุนอาหารแพงขึ้น และคนหลายสิบล้านคนในประเทศเข้าไม่ถึงอาหาร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านและพันธมิตรบางคนของรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติกฏหมายค้าปลีกครั้งนี้ เพราะเกรงว่า การเปิดตลาดค้าปลีกให้แก่บริษัทต่างชาติ อาจจะส่งผลกระทบต่อโชว์ห่วยจำนวนหลายล้านแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ และทำให้คนยากจนเดือดร้อน
ref: http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... /news.html
คณะรัฐมนตรีอินเดีย ตัดสินในอนุญาติให้ต่างชาติลงทุนโดยตรงมากขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศที่มีขนาดใหญ่ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารของอินเดียและเปิดตลาดอินเดียให้บรรดาเครือข่ายค้าปลีกระดับโลกเข้าไปมีส่วนร่วมในการชิงส่วนแบ่งตลาดอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ เครือข่ายผู้ค้าปลีกชั้นนำโลก อาทิเช่น วอล-มาร์ท คาร์ฟูร์ เทสโก้ และอีเกีย พยายามล็อบบี้มาโดยตลอด เพื่อขอโอกาสทางธุรกิจในอินเดีย ที่มีกำลังซื้อมากถึง 1.2 พันล้านคน ด้วยการเข้าไปตั้งร้านค้าปลีก เทียบกับที่ผ่านมา บรรดาผู้ค้าปลีกข้ามชาติเข้าไปดำเนินธุรกิจในดินแดนแห่งนี้ ผ่านทางการจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ค้าส่งสัญชาติอินเดียเป็นหลัก
ภายใต้กฏหมายใหม่ที่คณะรัฐมนตรีอินเดียอนุมัตินี้ จะทำให้เครือข่ายค้าปลีกข้ามชาติเข้ามาลงทุนโดยตรงในอินเดียเพิ่มขึ้น 51% นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังอนุญาติให้บรรดาบริษัทค้าปลีกจากต่างชาติ ที่มีแบรนด์เดียว เข้าลงทุนโดยตรงในประเทศได้ 100% จากเดิมที่อนุญาติให้ลงทุนได้ในสัดส่วน 51% เท่านั้น
บรรดาผู้สนับสนุน มองว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานที่ค่อนข้างมีจุดอ่อนมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งจุดอ่อนที่ว่า มีทั้งการที่อาหารเน่าเสียง่าย โครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานย่ำแย่ ระบบการขนส่งไม่มีประสิทธิภาพ และระบบการซื้อขายผ่านคนกลาง ซึ่งรัฐบาลคาดการณ์ว่าความเสียหายในส่วนนี้มีสัดส่วนประมาณ 30% ซึ่งทำให้ต้นทุนอาหารแพงขึ้น และคนหลายสิบล้านคนในประเทศเข้าไม่ถึงอาหาร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านและพันธมิตรบางคนของรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติกฏหมายค้าปลีกครั้งนี้ เพราะเกรงว่า การเปิดตลาดค้าปลีกให้แก่บริษัทต่างชาติ อาจจะส่งผลกระทบต่อโชว์ห่วยจำนวนหลายล้านแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ และทำให้คนยากจนเดือดร้อน
ref: http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... /news.html