ฝรั่งม้นก็ ขี้โกง และ คอรับชั่นเยอะเหมือนกัน

[matee]

ฝรั่งมีการ คอรับชั่นมากเหมือนกัน แต่เปลี่ยนเป็นเรียกว่าอย่างอื่น ค่าคอมมิชชั่น
หรือไม่ก็ทิป
ฝรั่งโกง ไม่แตกต่างจากชาติอื่นดีไม่ดีหนักกว่าอีก
ดูอย่าง ตอน เมกา เรื่องซัพพลาม หรือตอนนี้ ดูยุโรปซิ
หรือเรื่องการ ตกแต่งบัญชี
บริษัทยักษ์ใหญ่ ฝรั่ง ตกแต่งบัญชีกัน เป็นว่าเล่น แต่ว่า จับไม่ได้
ผมละ สงสัยทำไม อ่านบทความที่ไร ไม่ว่าคนไทยหรือฝรั่ง มักจะอ้างว่า
ฝรั่งโปร่งใส การพัฒนา แบบฝรั่งเป็นการพัฒนา ที่ยั่งยืน
แต่ เมกา ก็ฟองสบู่แตก และยังไม่ฟื้น ยุ่โรป ก็ยังแก้ปัญหาตัวเองไม่ได้
ซีอีโอแบงก์บาร์เคลย์ลาออก-หวั่นกรณีฉาวปั่นดอกเบี้ย'ไลบอร์'ยิ่งบาน


เอเจนซีส์ - บ็อบ ไดมอนด์ ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของธนาคารบาร์เคลย์ส มีผลทันทีตั้งแต่วันอังคาร (3) จากกรณีอื้อฉาวในการปั่นดอกเบี้ยไลบอร์ ซึ่งอาจมีผลสะท้านสะเทือนถึงตำแหน่งศูนย์กลางการเงินของลอนดอน รวมทั้งมีแบงก์ข้ามชาติอีกหลายแห่งติดร่างแหด้วย โดยก่อนหน้านั้นวันเดียว ประธานกรรมการแบงก์ยักษ์เมืองผู้ดีแห่งนี้เพิ่งยื่นซองขาว

แถลงการณ์ของบาร์เคลย์สระบุว่า ไดมอนด์ขอลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแบงก์โดยมีผลทันที และมาร์คัส เอเกียส ประธานกรรมการที่ประกาศลาออกล่วงหน้าไปเมื่อวันจันทร์ (2) จะรับผิดชอบบริหารงานแทนจนกว่าจะได้ซีอีโอคนใหม่

ก่อนหน้านี้หลายคนคิดว่า ไดมอนด์จะรอดพ้นมรสุม หลังจากเอเกียสประกาศขออำลาตำแหน่ง

การลาออกของผู้บริหารระดับสูงคู่นี้มีขึ้นขณะที่มีแนวโน้มว่า บาร์เคลย์อาจถูกฟ้องร้องคดีอาญาจากกรณีอื้อฉาวที่กระเทือนต่อภาพลักษณ์ศูนย์กลางการเงินของลอนดอน โดยสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งอังกฤษ (เอสเอฟเอ) แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังพิจารณาว่าควรและเป็นไปได้หรือไม่ในการฟ้องร้องคดีอาญาต่อกรณีอื้อฉาวนี้ โดยหวังว่าจะได้ข้อสรุปภายในหนึ่งเดือน

ทางด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แสดงความหวังว่า การลาออกของไดมอนด์จะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่วัฒนธรรมความรับผิดชอบในแวดวงการธนาคารเมืองสิงโตคำราม รวมทั้งยังประกาศว่า รัฐสภาจะเปิดการไต่สวนกรณีที่เทรดเดอร์ของบาร์เคลย์ปิดบังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จ่ายให้แก่ธนาคารแห่งอื่น

เรื่องอื้อฉาวนี้ที่อาจส่งผลต่อแบงก์ข้ามชาติแห่งอื่นๆ เกี่ยวข้องกับการปั่นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไลบอร ์และยูริบอร์ ที่มีบทบาทสำคัญในตลาดโลก เนื่องจากดอกเบี้ยทั้งสองตัวนี้ เป็นตัวกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่แบงก์ ภาคธุรกิจ และผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้องจ่าย โดยเชื่อว่า ตลอดหลายปีมานี้ พนักงานของบาร์เคลย์สพยายามปั่นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงทั้งสองตัวขึ้นเพื่อทำกำไร จากนั้นในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินจึงดึงลงเพื่อปิดบังไม่ให้รู้ว่า บาร์เคลย์กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันทางการเงิน และการกระทำนี้ส่งผลให้ลูกหนี้ต้องชำระอัตราดอกเบี้ยที่สูงหรือต่ำกว่าปกติในการกู้ยืมเงิน

สัปดาห์ที่แล้ว บาร์เคลย์จ่ายค่าปรับเป็นจำนวนทั้งสิ้น 455 ล้านดอลลาร์ให้แก่ผู้คุมกฎในอังกฤษและอเมริกา จากความพยายามปั่นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว

มาถึงวันจันทร์ ธนาคารชั้นนำเมืองผู้ดีแห่งนี้เผยว่า จะเริ่มการตรวจสอบอิสระเพื่อขุดคุ้ยแนวทางการปฏิบัติในอดีตทั้งหมดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นข้อบกพร่องนับจากที่วิกฤตสินเชื่อเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

บาร์เคลย์สยืนยันว่า จะกำหนดนโยบายที่ไม่ยอมรับการดำเนินการที่จะทำให้ชื่อเสียงของแบงก์ด่างพร้อยโดยเด็ดขาด

ไดมอนด์ นายธนาคารชื่อดังค่าตัวแพงที่รับผิดชอบบาร์เคลย์ส แคปิตอล ธุรกิจวาณิชธนกิจของบาร์เคลย์สในช่วงที่เชื่อว่ามีการปั่นอัตราดอกเบี้ยนั้น บอกว่าเขาตกลงปักหลักกับบาร์เคลย์เมื่อ 16 ปีที่แล้วเพราะมองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจวาณิชธนกิจระดับโลก และกระตือรือร้นมาโดยตลอดในการทำสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ของธนาคาร แต่ไม่มีการตัดสินใจครั้งใดหนักหน่วงเท่ากับการตัดสินใจลาออกในครั้งนี้

ทั้งนี้ ไดมอนด์มีกำหนดไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการคลังของรัฐสภาอังกฤษในวันพุธ (4)

นอกจากนั้น ตลาดยังสงสัยว่า เรื่องอื้อฉาวในแวดวงการธนาคารครั้งล่าสุดจะนำไปสู่การยกเครื่องแนวทางการทำธุรกิจในย่านการเงินซิตี้ ออฟ ลอนดอนท่ามกลางความกดดันของนักการเมืองระดับสูงหรือไม่

บาร์เคลย์สถือเป็นสถาบันการเงินใหญ่แห่งแรกที่ยอมไกล่เกลี่ยหลังถูกสอบสวนจากทั้งสองฝั่งฟากแอตแลนติก

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1) มีรายงานว่า รอยัล ดัทช์ แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ที่รับความช่วยเหลือจากรัฐอยู่ในขณะนี้ ได้ปลดเทรดเดอร์ 4 คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการปั่นดอกเบี้ยนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า พฤติกรรมนี้อาจกระจายออกไปในวงกว้างกว่าที่คิด

http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000081678