ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 2
ดอกเบี้ยเป็นตัวอ้างอิง ผลตอบแทนของนักลงทุน
นักลงทุนเห็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง มันต้องได้ผลตอบแทนสูง (แต่ไม่เสมอไป ถ้านายตลาดให้ราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ผลตอบแทนเลยสูงมากๆ แต่ถ้าหากนายตลาดให้ราคาที่สูงไป กดผลตอบแทนที่ต่ำลง ต้องใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์)
ดังนั้น เมื่อ ธนาคาพาณิชย์ หรือ ตราสารหนี้ของรัฐบาล เพิ่มขึ้น มันส่งผลต่อแรงกดดันให้บริษัท เพิ่มผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
หากผลตอบแทนของบริษัท ไม่น่าสนใจ นักลงทุนก็โยนย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดตราสารทุกที่มีความเสี่ยงสูงไปยังที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า
แต่ทว่า ในตลาดตราสารหนี้เอง เมื่อปันเพิ่มผลตอบแทน นั้นคืออะไร ราคาของพันธบัตรหรือตราสารหนี้มันลดลง
บริษัทที่ถือครองก็โดน Mark to market ทำให้ผลตอบแทนจากตลาดตราสารหนี้เกิด Shock หรือ Site Effect จากการเพิ่มขึ้นได้ ในระยะสั้น
แต่อย่างไรเสีย ต้องดูด้วยว่า ถ้าหากขึ้นดอกเบี้ยนั้นคือ ภาระของใครเพิ่มขึ้น
ของประเทศ (รัฐบาล) เพิ่มขึ้น หรือ ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
ถ้าหากภาครัฐเพิ่มขึ้นนั้นคือ เบื้องหลังของการขึ้นภาษีอีกทอดหนึ่ง
สิ่งที่แบกภาระคือ เงินต้นและดอกเบี้ย ถึงแม้นจะ Roll over ก็ตามที่ ถ้าหากไม่ Hair cut หรือ หาเงินมาจ่ายได้
มันก็ GAME OVER ต้องหาทาง Restart เริ่มต้นเกมใหม่ หรือ หาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ล่ะ
(เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน)
นักลงทุนเห็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง มันต้องได้ผลตอบแทนสูง (แต่ไม่เสมอไป ถ้านายตลาดให้ราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ผลตอบแทนเลยสูงมากๆ แต่ถ้าหากนายตลาดให้ราคาที่สูงไป กดผลตอบแทนที่ต่ำลง ต้องใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์)
ดังนั้น เมื่อ ธนาคาพาณิชย์ หรือ ตราสารหนี้ของรัฐบาล เพิ่มขึ้น มันส่งผลต่อแรงกดดันให้บริษัท เพิ่มผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
หากผลตอบแทนของบริษัท ไม่น่าสนใจ นักลงทุนก็โยนย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดตราสารทุกที่มีความเสี่ยงสูงไปยังที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า
แต่ทว่า ในตลาดตราสารหนี้เอง เมื่อปันเพิ่มผลตอบแทน นั้นคืออะไร ราคาของพันธบัตรหรือตราสารหนี้มันลดลง
บริษัทที่ถือครองก็โดน Mark to market ทำให้ผลตอบแทนจากตลาดตราสารหนี้เกิด Shock หรือ Site Effect จากการเพิ่มขึ้นได้ ในระยะสั้น
แต่อย่างไรเสีย ต้องดูด้วยว่า ถ้าหากขึ้นดอกเบี้ยนั้นคือ ภาระของใครเพิ่มขึ้น
ของประเทศ (รัฐบาล) เพิ่มขึ้น หรือ ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
ถ้าหากภาครัฐเพิ่มขึ้นนั้นคือ เบื้องหลังของการขึ้นภาษีอีกทอดหนึ่ง
สิ่งที่แบกภาระคือ เงินต้นและดอกเบี้ย ถึงแม้นจะ Roll over ก็ตามที่ ถ้าหากไม่ Hair cut หรือ หาเงินมาจ่ายได้
มันก็ GAME OVER ต้องหาทาง Restart เริ่มต้นเกมใหม่ หรือ หาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ล่ะ
(เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน)
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 3
ปกติ เวลาดอกเบี้ยสหรัฐขยับเนื่องจากมีฐานทุนของเงินที่กระจายทั่วโลก จึงมักส่งผลกระทบไปทั่วโลก เพราะมีเรื่อง fund flow ที่ปรับเปลี่ยนไปหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามมา
ดังนั้นการที่ดอกเบี้ยปรับเปลี่ยนตาม้ช่น สูงขึ้น
จะกระทบกับมิติของดอกเบี้ยในประเทศไทยตามด้วย เหมือนที่พี่่ miracle ว่า มีหลายมิติเพิ่มเติม เช่น
1. ผู้ฝากและผู้กู้
ผู้ฝากที่เป็น float rate ลอยตัว happly ฝาก fixed rate ไม่ได้ประโยชน์
ผู้กู้ที่เป็น float ลอยตัว ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น เป็น fixed happy
2. กิจการที่มี cash cycle
Cash cycle เป็นลบ และมีปริมาณเงินเหลือมาก สามารถไปลงทุนหาผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยรับดีขึ้น ความสามารถแข่งขันดีขึ้น เพราะไม่ต้องกู้เงินลงทุน พวกประกันภัยและประกันชีวิต ค้าปลีกที่มีเงินไปลงทุนหาผลตอบแทนในตลาดเงิน เป็นต้นน่าจะดี
Cash cycle บวก และบวกมาก ก็มีภาะระดอกเบี้ยจ่ายที่มาลงทุน opex สูงขึ้น
3. ค่าเงิน
ดอกเบี้ยสูง ค่าเงินมักแข็งขึ้นมากกว่าดอกเบี้ยต่ำ
4. กิจการที่่เริ่มขยายงานช่วงนี้ และใช้เงินกู้มาก จะได้รับผลกระทบ irr ต่ำลงเพราะ financial risk สูงขึ้น wacc มักสูงตามไปด้วย
อื่น ๆ อีกครับ
ดังนั้นการที่ดอกเบี้ยปรับเปลี่ยนตาม้ช่น สูงขึ้น
จะกระทบกับมิติของดอกเบี้ยในประเทศไทยตามด้วย เหมือนที่พี่่ miracle ว่า มีหลายมิติเพิ่มเติม เช่น
1. ผู้ฝากและผู้กู้
ผู้ฝากที่เป็น float rate ลอยตัว happly ฝาก fixed rate ไม่ได้ประโยชน์
ผู้กู้ที่เป็น float ลอยตัว ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น เป็น fixed happy
2. กิจการที่มี cash cycle
Cash cycle เป็นลบ และมีปริมาณเงินเหลือมาก สามารถไปลงทุนหาผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยรับดีขึ้น ความสามารถแข่งขันดีขึ้น เพราะไม่ต้องกู้เงินลงทุน พวกประกันภัยและประกันชีวิต ค้าปลีกที่มีเงินไปลงทุนหาผลตอบแทนในตลาดเงิน เป็นต้นน่าจะดี
Cash cycle บวก และบวกมาก ก็มีภาะระดอกเบี้ยจ่ายที่มาลงทุน opex สูงขึ้น
3. ค่าเงิน
ดอกเบี้ยสูง ค่าเงินมักแข็งขึ้นมากกว่าดอกเบี้ยต่ำ
4. กิจการที่่เริ่มขยายงานช่วงนี้ และใช้เงินกู้มาก จะได้รับผลกระทบ irr ต่ำลงเพราะ financial risk สูงขึ้น wacc มักสูงตามไปด้วย
อื่น ๆ อีกครับ
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 4
gap ผลตอบแทนตลาดเกิดใหม่ที่มีกะ US ก็น้อยลง
risk free rate สูงขึ้น required return สูงขึ้น เงินที่อื่นจะไหลไปไหน
จะเกิดอะไรขึ้นหนอ
ต้องขอดูลูกแก้วก่อน
risk free rate สูงขึ้น required return สูงขึ้น เงินที่อื่นจะไหลไปไหน
จะเกิดอะไรขึ้นหนอ
ต้องขอดูลูกแก้วก่อน
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 5
เคยเกิดในอดีตมาหลายครั้งหลายคราวแล้วนิครับวรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ต้องขอดูลูกแก้วก่อน
แต่ในปัจจุบันความซับซ้อนของระบบมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ในอดีต ข่าวสารได้รับรู้ช้า ไม่มีระบบคอมพิวเตอร์ ไม่มีตราสารอนุพันธ์ที่ยิ่งใช้ระบบก็ยิ่งซับซ้อน ที่สำคัญมนุษย์ฉลาดขึ้นแต่ไมได้ย้อนไปอ่านประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 7
มันเป็นเพียง ฝนที่ตกหลังฟ้ามืดครับ คือ เป็นสิ่งที่เกิดแล้ว เงินทุนไหลออกไปก้เพราะเหตุผลว่า US จะขึ้นดอกเบี้ย แน่นอนพอประกาศขึ้นดอกเบี้ย
ทุกอย่างก้ยังเหมือนเดิมกับตอนนี้ แต่สิ่งที่จะเกิดหลังจากนี้ต่างหากที่น่าสนใจ
เพราะผลของมันได้เกิดขึ้นแล้ว ฝนตกแล้ว เปียกแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ เราต้องตอบให้ได้ว่า
หลังขึ้นดอกเบี้ย-->เงินทุนไหลออก(เกิดแล้ว)--->อะไรหล่ะที่ตามมา ใครได้ ใครเสีย
ฉกฉวยจากคนได้ประโยชน์ หนีหายจากคนที่เสียประโยชน์ พอคนได้ประโยชน์แพงก้ขายคนได้ประโยชน์ กลับไปรับ คนที่เสียประโยชน์ในราคาลดราคามากๆ
เพราะทุกอย่าง ไม่มีใครได้หรือเสียประโยชน์ตลอด ฟ้าก้มีสว่างมีมืด คนก้มีดีมีเลว กิจการก้มีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี
ทุกอย่างก้ยังเหมือนเดิมกับตอนนี้ แต่สิ่งที่จะเกิดหลังจากนี้ต่างหากที่น่าสนใจ
เพราะผลของมันได้เกิดขึ้นแล้ว ฝนตกแล้ว เปียกแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ เราต้องตอบให้ได้ว่า
หลังขึ้นดอกเบี้ย-->เงินทุนไหลออก(เกิดแล้ว)--->อะไรหล่ะที่ตามมา ใครได้ ใครเสีย
ฉกฉวยจากคนได้ประโยชน์ หนีหายจากคนที่เสียประโยชน์ พอคนได้ประโยชน์แพงก้ขายคนได้ประโยชน์ กลับไปรับ คนที่เสียประโยชน์ในราคาลดราคามากๆ
เพราะทุกอย่าง ไม่มีใครได้หรือเสียประโยชน์ตลอด ฟ้าก้มีสว่างมีมืด คนก้มีดีมีเลว กิจการก้มีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 8
เช่นเดียวกันกับตอนนี้ ที่ราคาหุ้นกลุ่มอสังหายานยนต์ลดราคามามาก ก้เพราะ ผลตอนนี้คือ ตลาดอสังหาและยานยนต์ไม่ดี
ตลาดหุ้นก้ลดจาก1600จุดมา 1200จุดก่อนหน้านี้ก้เพราะ GDPและตัวเลขผลประกอบการของ บลจ ลดลง
ไม่ใช่ตลาดไม่มีเหตตุผล แต่ตลาดรับรู้ได้เร็ว การปรับตัวจึงออกมาก่อนข่าวเสมอ เมื่อฟ้ามืดฝนก้ตก เมื่อแดดร้อนเหงื่อก้ออก ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามธรรมชาติโดยสิ้น
ผมมองว่าสำหรับ VI การมองภาพใหญ่ๆในอุตสาหกรรมไม่ออก ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ถ้ากิจการมันแย่ลงแข่งขันไม่ได้แล้วหลงรักมัน
คุณจะจมปลักไปกับมัน เหมือนคุณค้าขาย สินค้าที่เอามาคนไม่ใช้แล้ว ขายไม่ดี แน่นอนคุณเอามาขายก้เจ๊ง ตามคนอื่นไปเหมือนกัน
ออกไปมองว่าเค้ากินอะไร ใช้อะไร ซื้ออะไร ร้านไหนขายดี ร้านไหนขายไม่ดี วัยรุ่นกินอะไร ใช้อะไร เสพติดอะไร
ตลาดหุ้นก้ลดจาก1600จุดมา 1200จุดก่อนหน้านี้ก้เพราะ GDPและตัวเลขผลประกอบการของ บลจ ลดลง
ไม่ใช่ตลาดไม่มีเหตตุผล แต่ตลาดรับรู้ได้เร็ว การปรับตัวจึงออกมาก่อนข่าวเสมอ เมื่อฟ้ามืดฝนก้ตก เมื่อแดดร้อนเหงื่อก้ออก ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามธรรมชาติโดยสิ้น
ผมมองว่าสำหรับ VI การมองภาพใหญ่ๆในอุตสาหกรรมไม่ออก ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ถ้ากิจการมันแย่ลงแข่งขันไม่ได้แล้วหลงรักมัน
คุณจะจมปลักไปกับมัน เหมือนคุณค้าขาย สินค้าที่เอามาคนไม่ใช้แล้ว ขายไม่ดี แน่นอนคุณเอามาขายก้เจ๊ง ตามคนอื่นไปเหมือนกัน
ออกไปมองว่าเค้ากินอะไร ใช้อะไร ซื้ออะไร ร้านไหนขายดี ร้านไหนขายไม่ดี วัยรุ่นกินอะไร ใช้อะไร เสพติดอะไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 532
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 9
มันทายยากจิงๆ ดูตอน QE นึกว่าลงเละ แต่เอาเข้าจริงมันก็สะท้อนไปในราคาก่อน มันต้องหางานวิจัยมาดู lag time ของนโยบาย กับการตอนสนองของราคา มันยากจริงๆเพราะผมเป็นนักลงทุนธรรมดาด้วยมั้งครับ เพื่อนผมบางคนที่รู้จักวิเคราะห์ตลาดเก่งมากซึ่งทำให้เขากำไรงามและไม่ต้องทำงานประจำแล้ว ส่วนผมยังทำงานประจำแต่ให้ถือว่าเป็นการเพิ่ม Value ให้สังคมแล้วกันจะได้สบายใจ (ปลอบตัวเอง) ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าปีหน้า US ขึ้น ดบ
โพสต์ที่ 10
สมัยก่อนสื่อและการเข้าถึงข่าวทำได้ยากครับ black monday กว่าจะรู้ก้ข่าวออกแล้ว ดังนั้น action จึงจะช้ากว่าปัจจุบันgreenman เขียน:มันทายยากจิงๆ ดูตอน QE นึกว่าลงเละ แต่เอาเข้าจริงมันก็สะท้อนไปในราคาก่อน มันต้องหางานวิจัยมาดู lag time ของนโยบาย กับการตอนสนองของราคา มันยากจริงๆเพราะผมเป็นนักลงทุนธรรมดาด้วยมั้งครับ เพื่อนผมบางคนที่รู้จักวิเคราะห์ตลาดเก่งมากซึ่งทำให้เขากำไรงามและไม่ต้องทำงานประจำแล้ว ส่วนผมยังทำงานประจำแต่ให้ถือว่าเป็นการเพิ่ม Value ให้สังคมแล้วกันจะได้สบายใจ (ปลอบตัวเอง) ครับ
การมองเห็นหลุมข้างหน้าที่ลึกว่าเป็นเพียง หลุมตื้นๆที่เหยียบได้ ก้เป็นวิกฤติอย่างหนึ่ง เพราะถ้าเรามองไม่ออกว่า ผลที่จะเกิดจากเหตุที่รวดเร็วจะเป็นยังไง
เมื่อผลออกมา เราก้คงรับรู้ได้จากข่าวและนักลงทุนทุกคนก้คงรับรู้ได้หมดแล้ว ซึ่งตอนนั้น แม้รู้ว่าหลุมมันลึกก้ทำอะไรไม่ได้ เพราะเดินมาแล้ว
แน่นอนข่าวออกทุกคนรู้ ซึ่งผลของเหตุ แต่มันก้ช้าไปแล้วสำหรับนักลงทุน