Metco น่าซื้อ

[sirivajj]

สืบเนื่องจากเรื่อง Ratio นี้
ทำให้ผมต้องกลับไปขบคิด ซึ่งก็เป็นแบบนี้นะครับ

1. ผมไม่คิดว่า เกณฑ์ที่ 10,12, 15 หรืออะไรก็ตาม จะสามารถใช้ได้ตลอด
เพราะสิ่งเหล่านี้มัน Relative กับหุ้นตัวอื่นในตลาด หรือในอุตสาหกรรม
หากจะใช้ก็คงได้แค่เป็นแนวทางไปพิจารณาประกอบกับปัจจัยอื่น
2. เมื่อดูสิ่งที่เรียกว่า แพะ เรโช
หรือ เอา PE x PBV นั้น ผมก็หวังใจว่า มันจะได้ผลนะครับ
แต่โดยส่วนตัวแล้ว อะไรที่ Derive หรือมีที่มาโดยเกี่ยวกับ Book Value นั้น ผมมักจะไม่ให้ความสำคัญมากนัก เนื่องจาก Book Value ซึ่งเป็นตัวเลขทางบัญชีนั้น มีสมมติฐานทางบัญชีเป็นตัวกำกับในการบันทึกตัวเลขดังกล่าว ซึ่งผมคิดว่า มันไม่เสมอไปที่จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงที่เป็นปัจจุบันได้
3. ผมเห็นว่า
PE นั้น มี Price เป็นมูลค่าค่อนข้างเป็นปัจจุบัน ในขณะที่ Earning นั้นก็มีความใกล้เคียงปัจจุบัน
ในขณะที่ Book Value นั้นมีความเป็นอดีตมากกว่าปัจจุบันมากนัก

ซึ่งในการลงทุนนั้นเรากำลังจะแสวงหา มูลค่าในอนาคต
ดังนั้น ผมจึงพึงใจในสิ่งที่จะเป็นอนาคต Expected Earning หรือ เจ้า Growth มากกว่า
แต่ปัญหาคือ ไอ้เจ้า Growth ที่ว่านี้มันไม่ได้มีให้หาได้ง่ายๆ ได้แต่ประมาณการหรือคาดการณ์เอา
ดังนั้น ผมก็เลยเชื่อใน PE ซึ่งเป็นปัจจุบันมาบวกลบคูณหารเอากับ Growth ที่คาดเดาเอา (ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตามเรื่อง)
ไม่เคยใส่ใจใน Book Value มากเลยครับ
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไร ก็มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ

[Jeng]

ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ คุณ sirivajj เรโช อะไรก็มีเยอะแยะมากมาย สุดท้ายก็กลับมาที่ PE

[sirivajj]

คุณ Jeng ครับ
แต่ไอ้เจ้า PE นี่ก็ไว้ใจไม่ได้เสียทีเดียวนะครับ
เพราะเวลาที่มันต่างอุตสาหกรรมกัน แล้วเราจะต้องมาเปรียบเทียบกันนี่
มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางครั้งทำให้เราตัดสินใจผิดไปก็ได้เหมือนกัน
ลองดู 3 ตัวนี้สิครับ
ASTL, METCO, STANLY
ย้อนหลังไปในอดีตแล้วก็มาจากระดับราคาที่ใกล้ๆ กัน
แต่ปรากฏว่า ตัวที่ทำกำไรในปัจจุบันได้ค่อนข้างแน่นอนแล้วถึง 3 ไตรมาส กับมีกำไรสูงสุดเช่น METCO กับมีราคาที่ถูกกว่าใครเพื่อน

อย่างนี้แล้วก็แสดงว่า ต้องมีปัจจัยอื่น ที่สำคัญเช่นกัน เข้ามาเกี่ยวข้องและส่งผลกระทบด้วย
( ปัจจัยอื่น ก็ที่เขาเรียกกันว่า Story ครับ )

[ภัค]

ขอบคุณคุณวิบูลย์ และขอบคุณคุณ Jeng ด้วยค่ะ ดิฉันเข้าใจความปรารถนาดีของคุณ Jeng ที่ต้องการให้คนที่ซื้อหุ้นรู้จักคิดรอบด้าน ทั้งในเรื่องตัวธุรกิจ และราคาที่เหมาะสม สามารถอธิบายเหตุผลของการเลือกหุ้นได้ ไม่ใช่เลือกเพราะรู้สึกชอบ หรือเลือกเพราะซื้อตามๆ กัน โดยไม่ต้องออกแรงคิดอะไร จริงๆ แล้วดิฉันเองก็คิดว่าตัวเองนี่วุ่นวายเกินไป เพราะเที่ยวหานั่นหานี่มาคำนวนแบบครอบจักรวาลไปหมด ทั้งๆ จริงๆ แล้วมีเคล็ดวิชาแค่นิดเดียว ซึ่งผู้ลงทุนแต่ละท่านโดยเฉพาะท่านที่มีประสพการณ์ลงทุนมานาน สามารถมองทะลุหุ้นได้ในแว็บเดียวว่าเหมาะสมที่จะลงทุนหรือไม่ ดิฉันก็หวังว่าสักวันก็คงทำได้แบบนั้นบ้าง แต่ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นค่ะ ก็เลยขอหว่านแหไปก่อน วิธิไหนที่เอามาวิเคราะห์ได้ ก็รวบรวมมาใช้ทั้งหมด คิดว่าพอเริ่มคุ้นก็คงตัดบางส่วนที่ซ้ำซ้อนออกไปได้บ้าง เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ได้กระชับและรวมเร็วขึ้น โดยทั่วไปแล้วดิฉันไม่ได้วิเคราะห์เจาะลึกแบบนี้ทุกตัวค่ะ แค่ดู company highlight ดูงบการเงินคร่าวๆ ดู history trading ก็พอจะรู้คร่าวๆ แล้วหุ้นตัวนั้นน่าสนใจหรือไม่ ส่วนการวิเคราะห์ที่เล่ามาข้างต้น เพื่อหาตัวเลขมา confirm เท่านั้นค่ะ ที่มา post ก็มาร่วมแชร์ idea ค่ะ และยินดีรับฟังคำแนะนำว่าดิฉันควรตัดทอนอะไรที่ไม่จำเป็นทิ้งไปบ้าง หรือควรดูอะไรเพิ่มเติมอีก
ส่วนวันนี้ METCO ตัวแดงกว่าเก่าอีกค่ะ ดิฉันกำลังหยุดดูว่าจะตกลงกว่านี้อีกไม๊ จะได้ซื้อเพิ่มสักที กลัวว่ายิ่งซื้อยิ่งตก ปันผลทีคาดว่าจะได้ คงต่ำกว่า capital loss ถึงยังไงก็ยังไม่คิดที่จะขาย อยากให้หุ้นตัวนี้พิสูจน์การเป็น VI ว่าจะไปรอดหรือไม่ ถ้าไปไม่รอดก็จะได้รู้ว่าเราพลาดตรงไหน ถือว่าเสียเงินซื้อบทเรียนค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านด้วยความจริงใจ

[chatchai]

หุ้นตกไม่ต้องตกใจหรอกครับ คุณภัค

เท่าที่ผมสังเกต Buffett ซื้อหุ้นทีไรราคาก็ตกลงมาก่อนแทบทุกทีละครับ

ถ้าเราศึกษามาอย่างละเอียดแล้ว แล้วเราพอใจในสิ่งที่เราซื้อก็โอเคครับ อย่าไปหวั่นไหวกับ Mr.Market เลยครับ

เอาเวลาศึกษาหาข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมต่อดีกว่าครับ อย่าไปกังวลเลย

[champ]

นั่งอ่านกระทู้นี้ไปมาหลายรอบ
อ่านไปอ่านมา เลยซื้อเลย
ค่อนข้างมั่นใจว่าปันผลน่าจะ 1X บาท
เลยฟาดเลย
หังว่าตัวเองจะคิดถูก

[ภัค]

วันนี้มีคุณ champ มาร่วมสมาคมตัวแดงๆๆ ด้วยเหรอคะ ดีใจจัง ไม่เหงาแล้ว วันนี้ดิฉันขาดทุนเกือบหกพันบาทแล้วนะ

[tom]

ผมซื้อตอน 190 บาท และน้ำลายหยดแหมะๆตอนหุ้นขึ้นไป 250 บาท ตอนนั้นยอมรับว่าหวั่นไหวมากๆ ที่จะขาย ด้วยความที่ประสบการณ์น้อยหรือมั่นใจในแนวทางก็ไม่ทราบได้ จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ยอมขาย ยังเป็นคำถามอยู่ในใจว่ากำไร 500*(250-190) แล้วถอยมารับที่ 220 ตอนนี้ กับถือไว้เท่ๆ แบบไหนมันดีกว่า ....แต่อย่าคิดให้ปวดหัวดีกว่า ที่ผมพูดแบบนี้ได้เพราะเป็นเรื่องของอดีต ถ้าเกิดวันนั้นราคาวิ่งต่อเป็น300 ผมก็คงมานั่งบ่นว่าขายหมูอีก ....บ่นเฉยๆ ครับ ไม่มีอะไร

อ้อ ฝากความระลึกถึงที่เจ๋ง พี่ปรัชญา พี่ ฯลฯ ด้วยนะครับ ผมไม่ได้โพสนานแล้วครับ โดยเฉพาะพี่ปรัชญา รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

[Jeng]

หวัดดีครับ ไม่ได้โพสนานจริงๆ >>> tom เภสัช ใช่มั๊ย

แหม ทำเป็นลืม

[thanwa]

อ่านกระทู้นี้แล้วดีจังเลยครับ ทั้งคุณเจ๋ง คุณ sirivajj คุณ chatchai
วัน TVI Meeting #2 นั้น คุณลุงท่านก็มีวิธีคิดของท่านอีกแบบ ท่านก็ลงทุนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ มายาวนาน สรุปแล้วทุกคนก็มีวิธี มีสไตล์ที่เหมาะสมกับตนเอง ส่วนตัวผมนั้นในการลงทุนระยะหลังๆ จะให้น้ำหนักเรื่องของคุณภาพหุ้นและ 5 forces เป็นหลัก เรื่อง ratio ดูด้วยเพื่อไม่ให้ราคาที่เราซื้อสูงเกินไป

ผมว่าเรามีสมาชิกคุณภาพเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วครับ คุณภัคศึกษาธุรกิจและเข้าใจอย่างดีแล้ว ไม่ต้องกลัวหรอกครับ คุณภัคมั่นใจแล้วว่า มันเป็นความเสี่ยงที่รับได้ มี margin of safty ที่รับได้ เห็นด้วยกับคุณวิบูลย์ครับ ว่าคุณภัคมาสูงทางแล้ว อย่างสนใจว่ามันจะแดงหรือเขียวในช่วงสั้นเลยครับ วันหนึ่งราคาของหุ้นต้องสะท้อน มูลค่าที่แท้จริงของมันออกมา ถ้าศึกษาและเข้าใจอย่างดีแล้ว ลงมาก็ซื้อเพิ่มเลยครับ ผมสนับสนุนทั้งๆ ที่ไม่ได้ถือหุ้นตัวนี้อยู่ครับ

ขอให้คุณภัคประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ

อืม... ข้อมูลในกระทู้นี้น่าจะเก็บไว้ใน ร้อยคนร้อยหุ้นเหมือนกันนะครับ

[champ]

คุณภัคครับ
ใจเย็นๆครับ อย่าไปตื่นเต้นกับตัวเลข
ตอนที่ผมตัดสินใจซื้อ TF ที่ 248
มันก็หล่นลงไป แดงเหมือนกันครับ
แต่ผมไม่สนใจ คิดแต่ว่ายังไงก็มีปันผลปีละ 2 ครั้ง
และผมก็พอใจตรงนั้นด้วย และนี่ก็ผ่านปันผลมา 1 ครั้งแล้ว
ได้มา 6.96 บาทมั้ง ถ้าจำไม่ผิด
ส่วนที่คุณภัควิเคราะห์ออกมานั้นผมว่าเก่งมากๆเลยครับ
ผมยังไม่มีปัญญาเลย อาศัยถามคนอื่นเอา
อย่าง TF ผมถามพี่ปรัชญาครับ
SPI ก็หลอกถามพี่ JENG เอา แต่ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ
(จะโดนพี่ JENG ด่ามั้ยเนี่ย)
ค่อย ๆดูไปครับ ผมว่าอย่าไปกังวลมาก จะนอนไม่หลับ
TF ผมวาจะยกให้ลูกแล้วครับ คือไม่ขายแล้ว
ผมกลัวเดี๋ยวพอมันขึ้นแรงคุณภัคจะตกใจมากกว่ามันแดงอีกครับ

ขอให้โชคดีครับ

[Jeng]

ปกติพี่มี self confident สูงอยู่แล้ว ทั้งที่เล่นหุ้นมาเพียง 1 ปี

และอ่านหนังสือเพียง 1 เล่ม

พอมีคนมาถามปั๊ป พี่ตอบแหลกเลยครับ >>> champ

เพราะฉะนั้นเชื่อพี่น้อยๆ ดีแล้วครับ

และมีอะไรก็เล่าให้พี่ฟังมากๆก็ดีนะครับ

[Jeng]

คุณภัคครับ ผมมาเป็นเพื่อนคุณภัคแล้วนะครับ ซื้อไปที่ 224 500 หุ้น ซื้อปั๊ปก็แดงเลย แบบนี้ครับ ผมชอบ ซื้อแล้วเขียวจะไม่ค่อยชอบครับ ผมไม่ได้ปลอบใจตัวเองนะครับ

ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ ถ้าลงไป 200 จะซื้อเพิ่มให้แหลกเลย เพราะจะเหลือ PE = 5 หรือ E/P = 20 เปอร์เซ็นต์

metco มีทางลงไม่มากแล้วตอนนี้ และมีทางขึ้นค่อนข้างมาก

ที่ลงก็คงเป็นเพราะ

1. เงินบาทแข็งโป๊ก ธุรกิจที่เน้นส่งออกน่าจะมีปัญหา
2. สินค้าเทคโนเลยี่ ไม่ค่อย durable ต้องเปลี่ยนรุ่นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ลงทุนไม่มั่นใจ พอได้กำไรก็ถอยดีกว่า
3. สินค้าที่ผลิตน่าจะเป็น ล๊อตๆ ทำให้เมื่อมีการเซ็นต์สัญญาการผลิต อาจจะมีใครมีข้อมูลวงในก็ได้
4. อาจจะกลัวประเทศจีน เนื่องจากการเปิดเสีรีทางการค้าหรือเปล่า
5. แถมอนาคตยังเปิดเสีรีทางการค้ากับอินเดียอีก

แต่สำหรับผมแล้ว การที่ metco มีประสบการณ์มายาวนาน 60 ปี ในวงการนี้

และผมเองไม่มั่นใจว่า ไม่ durable จริงหรือเปล่า เพราะ การผลิต CD อะไรแบบนี้ เขาไม่ได้เป็นเจ้าของแบรนด์เอง เท่าที่เข้าใจเหมือน metco เป็นมือปืนรับจ้างผลิตสินค้า ผลิตให้เจ้านั้นที เจ้านี่ที

ผมก็เลยมั่นใจ เหมือนกรณี CEI ที่เป็นมือปืนรับจ้างผลิตให้ hunter fan พอ hunter สั่งน้อยลง ก็หันไปผลิตให้ honey well

เพราะฉะนั้นเพื่อให้มีกำลังใจในการอ่าน ผมก็เลยขอเป็นผู้ถือหุ้น metco ด้วยคนครับ

ตอนนี้มีหุ้นตัวเดียวกับ CK แล้ว

[Nash]

ผมชักสนใจMetco ขึ้นมาเหมือนกัน เห็นราคาตกลงทุกวัน แต่อยากรุ้ว่าใครพอทราบ website ของmetco บ้าง เพราะเข้าไปใน www.metco co.th ไม่ได้

[ภัค]

คุณ Jeng, คุณ Champ มาซื้อหุ้นตามๆ กัน เดี๋ยวคุณวิบูลย์จะหาว่าดิฉันมาใบ้หุ้นนะคะ (จุ๊...จุ๊...ปิดเป็นความลับนะคะ อย่าให้คุณวิบูลย์รู้เด็ดขาด) ข่าวดีค่ะ อันนี้คุณ Jeng ต้องชอบแน่ๆ เห็นบอกว่าซื้อหุ้นแล้วชอบเห็นตัวแดงๆ ปิดตลาดวันนี้ดิฉันขาดทุนเพิ่มอีกตามเคย ออกไปข้างนอกกลับมาเห็นมีซื้อกันที่ 220 โทรหา Seamico ว่าจะซื้อเพิ่มสัก 100 หุ้นเพราะตั้ง Target ไว้ว่าจะซื้อที่ราคานี้ น้องเค้าบอกว่าช่วงนี้ call market แล้วค่ะ อดเลย ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้ยังสบายใจค่ะ ไม่ได้หยิบอะไรมาก่ายหน้าผาก คิดว่าว่างๆ จะไปอ่าน 56-1 ซ้ำอีกครั้ง คราวก่อนรีบอ่านหลายตัว เลยจับประเด็นได้แค่คร่าวๆ

เรืืองการผลิตตาม order คุณ Jeng มีความเห็นว่าอาจคล้ายกรณี CEI ขอบคุณมากที่เตือนค่ะ ไม่อย่างนั้นดิฉันคงมองในแง่ดีซึ่งเป็นเหรียญคนละด้านกับคุณ Jeng เลย ดิฉันทำงานด้าน logistics จึงเห็นความสำคัญของการ keep low inventory โดยเฉพาะสินค้าประเภทเทคโนโลยี ไม่ควรมี Stock มากเกินไป เพราะเสี่ยงกับการที่สินค้าล้าสมัย พอดีไปอ่านเจอว่า METCO ผลิตสินค้าตาม order และเห็นว่ามี inventory ต่ำกว่า Account Receivable เสียอีก ก็เลยเห็นดีเห็นงามไปว่าความเสี่ยงด้าน dead stock คงมีน้อย และการตั้ง provision ก็ลดลงด้วยตามยอด inventory ลืมนึกถึงเรื่อง CEI ไปเลย ขอบคุณมากเลยค่ะทีีมองต่างมุมแล้วมา share กัน

[Jeng]

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณฉํตรชัยที่ส่งบทวิเคราะห์ของ โบรกเกอร์มาให้
อ่านบทวิเคราะห์ที่คุณฉัตรชัย ส่งมาให้จาก ABN AMRO ที่เขียนเกี่ยวกับ metco อ่านแล้วจะเป็นลม

คุณภัค มีอะไรวิจารณ์การวิเคราะห์ ของ AMN AMRO หรือเปล่าครับ

อิอิ

[champ]

พี่ JENG ส่งบทวิเคราะห์มาให้ผมอ่านบ้างสิครับ
จะได้ร่วมตกใจด้วยคนครับ
ว่ามันน่าตกใจยังไงครับ
เพราะผมยังสบายสบายอยู่ครับ
ยังไงยังไงก็กินปันผลสบายสบาย
ประมาณ 5% อยู่แล้ว
และที่ว่า 5 % นี่คิดที่เงินลงทุน 1 ปี นะครับ
ไม่ได้คิดว่าเขาจะปันประมาณ ก.พ.
ซึ่งเป็นเวลาแค่ 4 เดือนเอง ถ้าคิดก็ไม่รู้ว่ากี่ %
เพราะผมไม่ได้คิด

[Jeng]

เดี๋ยวขอหาเรื่องปลอบใจตัวเองก่อน

ABN AMRO ประมาณการไว้ว่าปีนี้จะได้กำไรทั้งปี 36.1 และปีหน้าจะโตน้อยมากเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ คือจะกำไร 36.7 ต่อหุ้น

พี่ซื้อ 224 เท่ากับ ได้กำไร 36.1/224 เท่ากับ 16.10 เปอร์เซ็นต์

ปีหน้า 2547 ได้กำไร 36.7/224 เท่ากับ 16.38 เปอร์เซ็นต์

ถ้าจับมารวมกัน เพราะผลประกอบการปี 46 เป็นของแถม เท่ากับ ได้ 36.1 + 36.7 = 72.8 เมื่อเทียบกับราคา 224

เท่ากับได้ผลกำไร 72.80/224 เท่ากับ 32.50 เปอร์เซ็นต์ ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

( หมายความว่าขอรับปันผล 2 รอบ แต่อาจจะถือหุ้น แค่ 14 เดือน แล้วก็ขาย )

อิอิ มั๊วได้แค่นี้ครับ เป็นการให้กำลังใจตัวเอง

จริงๆแล้ว ถ้า AMN มองแย่ขนาดนั้น แล้วยังประมาณกำไรโตน้อยขนาดนั้น แล้วยังได้กำไร 808 ล้านบาทเท่ากับ 36.7 บาทต่อหุ้น พี่ก็ว่าเยอะแล้วครับ สำหรับพี่นะครับ

คุณฉัตรชัยครับ พี่มีเรื่องอยากถามมากเลย

คำว่า maintain current operation ของวอเรนนี่

เขาสมมุติว่า ถ้าปีที่ 1 ได้กำไร 100 ล้านเหรียญ ปีที่ 2 ได้กำไร 100 ล้านเหรียญ แต่พอดีปีที่สอง ต้องเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่หมดเลย และต้องใช้เงิน 200 ล้านเหรียญ

บริษัทนี้ดูปีแรกเหมือนกำไร แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่มีกำไร

เรื่องแบบนี้ เราจะดูแต่กำไรอย่างเดียวไม่ได้ใช่หรือไม่

แต่เงินที่เอาไป maintain current opration ตอนแรกโชว์ให้เราดูก่อนว่าเป็นกำไร แต่จริงๆ อาจจะไม่ใช่กำไร เพราะต้องไปซื้อเครื่องจักรใช่หรือไม่

แล้วเราจะประเมิณกำไรที่แท้จริงได้อย่างไร

หรือว่ากำไรที่แท้จริงคือ FCF

ขอบคุณมากครับ

[champ]

ของคุณภัคก็ค่อยๆทยอยรับได้ครับ
ค่อยๆเก็บก็ได้ครับ เพราะเวลาผมซื้อก็ทีละ 100-200 ครับ
เรากินปันผลไปเรื่อย ๆ แหละครับ
เดี๋ยวทุนก็เหลือ 0 เองแหละครับ
คุยกับผมจะไม่ค่อยมีความรู้นะครับ
เพราะผมวิเคราะห์ไม่ค่อยเก่ง

[chatchai]

ผมเข้าใจว่าการประเมินราคาของ Buffett นั้นก็พยายามที่จะใช้ FCF ครับ

แต่ที่ในหนังสือบอกว่าใช้กำไรสุทธิคำนวณราคาหุ้นนั้น ผมอ่านในหนังสือเล่ม Warren Buffet Way นั้น
บอกว่าส่วนใหญ่บริษัทในสหรัฐจะมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเท่ากับค่าเสื่อมราคา
ดังนั้น ถ้าคิดในแง่เงินสดแล้ว
กำไรสุทธิ+ค่าเสื่อมราคา คือเงินสดรับ เมื่อหักเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวรซึ่งเท่ากับค่าเสื่อมราคาแล้ว จึงเหลือสุทธิเท่ากับกำไรสุทธิครับ

แต่ผมว่าที่ถูกต้องควรจะมีการหักเงินลงทุนใน Working Cap. ด้วย เนื่องจากบริษัทที่ Buffett ลงทุนนั้นมีการเติบโตของยอดขาย
ซึ่งจำเป็นต้องมีการเพิ่มขึ้นของ ลูกหนี้การค้า สินค้าคงคลัง และเจ้าหนี้การค้าด้วยครับ
ส่วนผมนั้นนอกจาก Working Cap. แล้วยังหักหนี้เงินกู้ที่ต้องชำระในแต่ละปีด้วยครับ ที่เหลือจะเป็นเงินสดอิสระจริงๆ ที่จะเหลือถึงผู้ถือหุ้นครับ

[champ]

พี่ JENG ครับ
ผมคิดว่าเดี๋ยวสิ้นปีพี่ก็น่าจะได้ส่วนต่างแล้วละครับ

[Shaihalud]

อ่านใน 56-1 เห็นว่าบริษัทหันมาเอาดีกับ dashboard cd changer and
digital camera นี่ครับ ไม่ทราบว่าทาง ABN เค้าคํานวณอัตรายอดขายของ digital camera part ในอนาคตด้วยหรือเปล่าครับ


Shaihalud---God emperor of dune

[chatchai]

คุณ champ อยากได้บทวิเคราะห์ต้นฉบับก็บอก E-Mail Address มาซิครับ เดี๋ยวส่งไปให้

[champ]

[email protected]
ขอบคุณล่วงหน้าครับ พี่ chatchai

[chatchai]

ผมส่งให้แล้วนะครับ มี 2 ฉบับครับ

[ลูกอิสาน2]

เรียนคุณภัค....

ยินดีต้อนรับคุณภัคครับ....นานทีจะมี VI ผู้หญิงเข้ามาซักคนครับ.. :lol:

สำหรับ metco ผมคิดว่าที่ราคาตลาดตอนนี้ก็น่าสนใจครับ...ตามเหตุผลที่พี่ๆ เค้าว่ามาละครับ ผมก็หาจังหวะซื้อคืนเหมือนกันครับ ติดที่ว่าเอาเงินไปลงตัวอื่นๆ จนหมดหน้าตักซะแล้ว... :lol:

สำหรับไตรมาสสุดท้าย สิ้นสุดเดือนกันยา ที่ผ่านมา metco "อาจจะ" มีรายการพิเศษได้ครับ คือ ค่าตัดสินค้าล้าสมัย และขาดทุนจากค่าเงิน เพราะที่ผ่านมา metco จะมีรายการพิเศษไตรมาสสุดท้ายหลายครั้งครััับ (แต่ปีที่ผ่านมาไม่มี)..

ยังไงก็ขอให้สบายใจได้ครับ ถือหุ้น metco โอกาสกำไรน่าจะมากกว่าการขาดทุนครับ.

[sirivajj]

ดีนะครับ ที่มีเพื่อนๆ มาคุยกันเยอะๆ กันแบบนี้
มุมมองของผมกับ METCO มีที่ไม่ชอบใจก็คือ
ราคาของ METCO ที่ลบลงมาป้วนเปี้ยนแถว 220 บาท
เพราะเกรงว่าถ้ามันหลุดราคานี้ลงมา แล้วมันอาจจะไหลไปเล่นกันแถว 200 ต้นๆ (อันนี้ผมคิดเอาเองนะครับ)
หวังว่า ราคานี้คงรับไว้ได้นะครับ
ตอนนี้ผมก็ดูไปเรื่อยๆ กับคอยเอาใจช่วยตัวเองกับเพื่อนๆ ทุกคนครับ

[Jeng]

ทุกท่านที่มี metco อย่าว่าผมนะครับ ผมกำลังหวังให้ราคาลงมาต่ำกว่า 200 ครับ ก่อน XD

ยิ่ง 180 ยิ่งดีเลยครับ

ห้ามว่ากันนะครับ

ถ้าเรามองว่า ในระยะยาวแล้ว ราคาจะกลับมา การที่ลงไปก่อนไม่น่ากลัวครับ

ยกเว้นว่าลงแล้วไม่กลับขึ้นมาเลย

[champ]

พี่ chatchai ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

พี่ JENG ครับ
ถ้าหล่นมาแบบพี่พูดก็ยิ่งดีครับ
ปันผลเท่าเดิม ราคาถูกลง สุดยอดเลยครับ

[ภัค]

รบกวนคุณฉัตรชัยช่วยส่งบทวิเคราะห์ให้ด้วย ยังไม่ได้อ่านเลย ขอบคุณค่ะ [email protected]

เมื่อคืนดิฉััน load "One Up on The Wall Street" มาอ่าน เพิ่งอ่านได้ครึ่งเดียว คุณ Peter Lynch แกไม่คอยเชื่อนักวิเคราะห์สักเท่าไหร่ แต่ดิฉันขออ่านบทวิเคราะห์ก่อนค่ะ ยังไงก็ฟังหูไว้หู อย่าลืมว่าเราซื้อหุ้นเทคโนโลยี ส่วนราคาถ้่าตกลงมาที่ 180 ดิฉันคงต้องวิ่งหาสาเหตุแล้วว่าเพราะอะไร ถ้าเป็นเพราะผลประกอบการ หรือการบริหารงานแย่ลง ก็คงถอยออกมาตั้งหลักก่อนค่ะ ส่วนที่คุณลูกอิสานกล่าวถึงการปรับตัดสต็อคสินค้าล้าสมัยช่วงปลายปี ดิฉันเห็นว่าบริษัทโปร่งใสดีึค่ะ ที่กำจัดสินค้าเน่าๆ ออกจากสต็อค ไม่เอามาหมกเม็ดเป็นทรัพย์สิน ทำตัวเลขให้ดูดีทั้งๆที่เป็น dead stock หรือมีแนวโน้มว่าเป็น obsolete stock. ยอดปรับปรุงดิฉันคิดว่ามีสาเหตุมาจาก
- การ scrab สินค้าที่ obsolete อันนี้ต้องแจ้งสรรพากรเพราะมีข้อกฎหมายกำหนดวิธีปฏิบัติไว้
- การตั้ง provision สำหรับ stock

เมื่อวานนี้ดิฉันเห็นมียอดเสนอซื้อ METCO มากกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่เสนอซื้อที่ราคา 118-224 และ Volume ที่ซื้อ--ขายจริงๆ ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็เพิ่มสูงขึ้นผิดตา เกรงว่าอาจมีคนที่ผ่านมาอ่านกระูทู้นี้มาซื้อหุ้น METCO กันโดยไม่ได้วิเคราะห์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ยังไงๆ เราเอาเงินมาเสี่ยงกับหุ้นเทคโนโลยี ควรต้องหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการลงทุน โดยเฉพาะในตัว product เองว่าเราเข้าใจมันแค่ไหน ดิฉันเองยังไม่เข้าใจตัว product เลย ไม่เคยเห็นว่าหน้าตาเป็นไงด้วยซ้ำไป แค่เห็นว่าองค์ประกอบอื่นน่าสนใจ ก็เลยลงทุนไว้ก่อนและจำกัดวงการลงทุนไว้เพียง 1000 หุ้นเท่านั้นค่ะ